ในช่วงยุค 2000 มีเพลงร็อกและเมทัลมากมายที่กลายเป็นเพลงติดหูมาจนถึงยุคปัจจุบัน โดยมากจะมาจากวงแนวนูเมทัล, โพสต์กรันจ์, ป๊อปพังก์ รวมไปถึงอัลเทอร์เนทีฟร็อก และหนึ่งในเพลงที่ได้รับความนิยมมากในช่วงนั้นก็คือ “Where Ever You Will Go” ของวง The Calling ที่ปล่อยออกมาให้ฟังในวันที่ 22 พฤษภามคม 2001 นั่นเอง
ผลงานเพลงนี้อยู่ในอัลบั้มแรกของวงที่ใช้ชื่อว่า ‘Camino Palmero’ แต่จริง ๆ แล้วเพลง “Where Ever You Will Go” เคยปรากฏให้ฟังก่อนหน้านี้แล้วในภาพยนตร์เรื่อง ‘Coyote Ugly’ มาก่อน ซึ่งออกฉายเมื่อปี 2000 โดยในซีนนั้นเป็นซีนที่นางเอกไปนั่งในบาร์ และมีวง The Calling กำลังเล่นเพลงนี้อยู่บนเวที อย่างไรก็ตามเพลงนี้กลับไม่ได้ถูกนำไปรวมอยู่ในซาวด์แทร็กของภาพยนตร์แต่อย่างใด
“Where Ever You Will Go” ถูกโปรโมตด้วย MV 2 เวอร์ชั่นด้วยกัน ซึ่งเวอร์ชั่นแรกถ่ายทำที่ประเทศเม็กซิโกแต่ไม่ค่อยเป็นที่จดจำสำหรับแฟนเพลงซักเท่าไหร่ ส่วนอีกเวอร์ชั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนคุ้นตากันเป็นอย่างดีกับฉากที่ถ่ายทำกันบริเวณใต้สะพานแม่น้ำลอสแอนเจลิส ซึ่งกำกับโดย Gregory Dark
แม้เพลงนี้จะถูกถ่ายทอดให้เหมือนเรื่องราวของคู่รักหนุ่มสาว แต่จริง ๆ แล้วมันได้รับแรงบันดาลใจมากจากเรื่องราวการสูญเสียคุณยายของ Aaron Kamin มือกีตาร์ของวง
“ในช่วงเวลานั้นคุณยายอันเป็นที่รักของผมได้เสียชีวิตลง และเธอได้ทิ้งสามีที่ใช้ชีวิตร่วมกันมา 50 ปีหรือมากกว่าเอาไว้ ผมได้ไปงานศพของคุณยาย แล้วหลังจากนั้นผมก็คิดได้ว่าถ้าผมเป็นสามีคุณยายผมจะเป็นอย่างไรเพราะชีวิตมันจะเปลี่ยนไปอย่างมาก แล้วมันยังเป็นช่วงเวลาที่ไม่ดีในชีวิตเลย”
“จากที่เคยมีคนที่อยู่เคียงข้างกันมา และแล้วเขาก็ต้องจากไป มันเป็นเรื่องที่บ้ามาก ผมเลยมาคิดต่อว่าสามีของคุณยายน่าจะเคยคิดเกี่ยวกับวิธีหาทางกลับไปหาคุณยาย หรือไปอยู่กับเธอ หรือไปดูว่าเธอจะสบายดีไหมอะไรประมาณนี้ครับ นั่นคือความหมายทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ในเนื้อเพลงนี้”
ด้วยเนื้อหาที่เข้าใจง่าย ดนตรีก็ซอฟต์ แถมหน้าตาของศิลปินยังหล่อไม่แพ้บรรดาบอยแบนด์ส่งผลให้บทเพลงเดบิวต์ของ The Calling โด่งดังแบบฉุดไม่อยู่ สามารถพุ่งไปแตะอันดับ 5 บนชาร์ตบิลบอร์ดได้สำเร็จ แถมยังรักษาตำแหน่งในชาร์ตอะเด้า ท็อป 40 นานถึง 23 สัปดาห์ หรือยาวนานถึง 5 เดือนนิด ๆ ทำสถิติครองชาร์ตยาวนานเป็นอันดับ 2 ตลอดกาลรองจากเพลง “Smooth” ของ Santana และ Rob Thomas และไม่ใช่เพียงแต่ในอเมริกา ในต่างประเทศทั่วโลก “Where Ever You Will Go” ยังเข้าไปติดชาร์ตได้ด้วยเช่นกัน
ในพาร์ตของเนื้อร้องของเพลงสามารถแปลความหมายได้ดังนี้
So lately, been wondering
Who will be there to take my place
When I’m gone, you’ll need love
To light the shadows on your face
ในตอนนี้ฉันยังคงรู้สึกสงสัย
ว่าจะมีใครมายืนแทนที่ของเรา
ในตอนที่เราจากไป แล้วคุณยังคงต้องการจะมีความรัก
เพื่อลบล้างความหมองหม่นบนใบหน้าของคุณ
If a great wave shall fall
And fall upon us all
Then between the sand and stone
Could you make it on your own?
แล้วถ้าหากคลื่นใหญ่ยักษ์จะซัดใส่เข้ามา
และตกมาใส่ทุก ๆ คน
แถมยังต้องติดอยู่ระหว่างทรายและก้อนหิน
คุณจะสามารถจัดการมันด้วยตัวเองได้ไหมนะ?
*If I could, then I would
I’ll go wherever you will go
Way up high or down low
I’ll go wherever you will go
ถ้าผมช่วยคุณได้ผมจะทำมัน
ผมจะไปทุก ๆ ที่ที่มีคุณ
ไม่ว่าจะสูงหรือต่ำแค่ไหน
ผมจะไปทุก ๆ ที่ที่มีเธอ
And maybe, I’ll find out
A way to make it back someday
To watch you, to guide you
Through the darkest of your days
และบางทีผมน่าจะได้คำตอบแล้ว
กับหนทางที่จะย้อนกลับไปในวันเหล่านั้น
เพื่อจะได้เฝ้ามองคุณ เพื่อจะได้ชี้ทางให้กับคุณ
ให้คุณผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายไปให้ได้
If a great wave shall fall
And fall upon us all
Well then I hope there’s someone out there
Who can bring me back to you
แล้วถ้าหากคลื่นใหญ่ยักษ์จะซัดใส่เข้ามา
และตกมาใส่ทุก ๆ คน
ผมก็หวังว่าจะมีใครซักคนที่ตรงนั้น
ที่จะพาผมกลับไปหาคุณได้
(*)
Run away with my heart
Run away with my hope
Run away with my love
วิ่งหนีไปพร้อมกันด้วยหัวใจ
วิ่งหนีไปพร้อมกันด้วยความหวัง
วิ่งหนีไปพร้อมกันด้วยความรัก
I know now, just quite how
My life and love might still go on
In your heart, in your mind
I’ll stay with you for all of time
ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร
ชีวิตและความรักของผมจะยังคงอยู่ต่อไป
มันจะอยู่ในหัวใจและในจิตใจของคุณ
ผมจะอยู่กับคุณในทุก ๆ ช่วงเวลา
(*)
If I could turn back time
I’ll go wherever you will go
If I could make you mine
I’ll go wherever you will go
I’ll go wherever you will go
ถ้าผมสามารถย้อนเวลากลับไปได้
ผมจะไปทุก ๆ ที่ที่มีคุณ
ถ้าผมสามารถเป็นหนึ่งเดียวกับคุณได้
ผมจะไปทุก ๆ ที่ที่มีคุณ
ผมจะไปทุก ๆ ที่ที่มีคุณ
แม้อาจจะไม่ได้เป็นเพลงที่หนักหน่วง แต่เชื่อว่าเพลง “Where Ever You Will Go” น่าจะผูกติดความทรงจำดี ๆ ของใครหลาย ๆ คนเอาไว้อย่างแน่นอน

Owner, Co-Founder and Writer of Headbangkok
Vocalist : Tragedy of Murder