เราทุกคนต่างทราบกันดีกว่าดนตรีที่ครองโลกในยุค 90’s คงหนีไม่พ้นแนวกรันจ์และอัลเทอร์เนทีฟร็อก มันได้แพร่กระจายไปทั่วโลก และช่วยสร้างสีสันให้กับวัยรุ่นในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี แม้เวลาของยุคนั้นจะล่วงเลยมานานเกือบ ๆ 30 ปีแล้ว แต่ผลงานเพลงจำนวนมากก็ยังคงถูกเปิดฟัง ถูกพูดถึง และถูกนำมาเล่นอยู่ตลอดเวลา และหนึ่งในนั้นคือเพลง “What’s Up” ของ 4 Non Blondes วงอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีสมาชิกหลักเป็นสุภาพสตรี
4 Non Blondes เริ่มฟอร์มวงกันในปี 1989 ก่อนจะได้ออกอัลบั้มเต็มชุดแรก “Bigger, Better, Faster, More!” ในปี 1992 และมันกลายเป็นเพียงผลงานชุดเดียวของ 4 Non Blondes จนมาถึงปัจจุบัน เพราะพวกเขาได้ตัดสินใจแยกทางกันไปในปี 1994 แต่ถึงแม้ว่าจะมีเพียงแค่ 1 อัลบั้ม แต่ผลงานของพวกเขากลับกลายเป็นที่จดจำมาจนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะเพลง “What’s Up”
ซาวด์ของเพลงนี้มันโดดเด่นด้วยไลน์กีตาร์ที่ซ้อนเลเยอร์กันระหว่างการตีคอร์ดของกีตาร์อะคูสติค และซาวด์ของกีตาร์ไฟฟ้าที่มีริฟฟ์กีตาร์ที่ลื่นไหลได้ดีมาก และแน่นอนพาร์ตเสียงร้องของ Linda Perry ที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ พลัง และเทคนิคการร้องที่กินขาด เป็นสิ่งที่สะกดใจคนฟังให้อยู่หมัดแบบถอนตัวไม่ขึ้น
อย่างไรก็ตามมันมีเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ภายใต้เพลงนี้ เพราะในตอนแรกพวกเราเกือบจะไม่ได้ฟังเวอร์ชั่นนี้ซะแล้ว เพราะ David Tickle โปรดิวซ์เซอร์ของอัลบั้มนี้พยายามที่จะเปลี่ยนเนื้อเพลง โดยทาง Linda Perry ได้เคยเล่าเหตุการณ์ดังกล่าวให้กับทาง Tape Op Magazine ฟังดังนี้

(ภาพด้านบนคือ DAVID TICKLE)
“โปรดิวซ์เซอร์ไม่ได้เข้าใจธรรมชาติของเพลงนี้เลย ฉันก็เลยต้องไปที่ค่ายเพื่อบอกว่า ‘เพลงนี้มันห่วยแตกสิ้นดี มันไม่ใช่เพลงที่ฉันเขียนเนื้อเพลงซักหน่อย’ ฉันได้พาสมาชิกวงในระหว่างที่พักกันอยู่ เพื่อเดินทางไป The Record Plant ที่เมืองซอซาลิโต แล้วฉันก็เริ่มปรับเปลี่ยนเนื้อร้อง และในระหว่างที่ฉันกำลังอัดร้องช่วงกลางเพลง David Tickle ก็ถึงปรากฏตัวออกมา มันทำให้ฉันรู้สึกรำคาญจริง ๆ แต่สุดท้ายพวกเราก็ทำเพลงนี้กันจนเสร็จ พวกเราได้จัดการเสียงร้องและมิกซ์มันในคืนนั้นเลย และมันก็กลายเป็นเวอร์ชั่นที่ทุกคนทั่วโลกได้ฟังกัน ฉันเองก็เล่าเรื่องนี้มามากพอที่จะทำให้ทุกคนรู้ว่า David Tickle ไม่ได้โปรดิวซ์เพลงนี้ แต่เป็นฉันต่างหาก”
ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของ Linda Perry จริง ๆ เพราะเราก็เดาไม่ออกว่าหากออกมาเป็นเวอร์ชั่นเนื้อร้องของ David Tickle มันจะดังพลุแตกแบบนี้มั้ย ส่วนจุดกำเนิดความยิ่งใหญ่ของเพลง “What’s Up” ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน Christa Hillhouse มือเบสเคยเล่าให้ฟังไว้ว่า
“เอาแบบสั้น ๆ นะ ตอนนั้น Linda ได้ออกจากงานและก็ได้มาอาศัยอยู่กับฉันที่แฟลต 2 ห้องนอนเล็ก ๆ ในซานฟรานซิสโก เธอเขียนเพลงนี้ตอนที่นั่งอยู่ในห้องโถง ส่วนฉันอยู่ในห้องนอนกำลังสะเด้ยอยู่ แต่ฉันต้องหยุดกระทันหันเพราะได้ยินเธอเล่นเพลงนี้ ฉันจำได้เลย ฉันวิ่งลงไปที่ห้องโถงแล้วบอกว่า ‘พวก, เมื่อกี้เล่นอะไรวะ? กูอย่างชอบเลยหว่ะ’ พวกเราเคยมีเพลงร็อกกาก ๆ เก็บไว้เยอะ แต่ Linda มักจะดึงมุมความเป็นบัลลาดออกมาตลอด ฉันจำได้ดีเลยว่าตอนนั้นอย่างอึ้ง แล้วเธอก็มองมาที่ฉันแล้วพูดว่า ‘เพลงนี้ซาวด์มันเหมือนเพลงอื่นหรือเปล่าวะ? กูกำลังก็อปเพลงใครอยู่หรือเปล่า?’ ฉันเลยตอบกลับไปว่า ‘มาจบเพลงนี้กันเถอะ มันสวยงามมาก!’ พวกเราก็เอาเพลงนี้ไปเล่นในโชว์ทันที ซึ่งผู้คนก็ชอบมันกันมากเลย”
“What’s Up” กลายเป็นผลงานสร้างชื่อเสียงให้กับ 4 Non Blondes ในเวลาอันรวดเร็ว มันฮิตถึงขนาดไปติดชาร์ตอันดับ 1 ในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก และทำยอดขายซิงเกิ้ลไปได้เกินกว่า 2 ล้านก็อปปี้ อีกทั้งปัจจุบันยังมียอดเข้าชม MV สูงถึง 1.4 พันล้านครั้งเลยทีเดียว

Owner, Co-Founder and Writer of Headbangkok
Vocalist : Tragedy of Murder