Starfish เป็นวงอัลเทอร์เนทีฟร็อกหน้าใหม่ที่น่าสนใจมากของปีที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจ เข้าถึงเรื่องราวที่แตกต่างจากวงร็อกทั่ว ๆ ไปและไม่ทำให้เราผิดหวังกับทั้งสามซิงเกิลที่ปล่อยออกมารวมถึง “ไอ้หนุ่มรถไถ” (แค่ชื่อเพลงก็โคตรร็อกแล้ว!) ซึ่งถ้าหลับตาฟังเพลงของ Starfish เราก็จะไม่สามารถนึกไปถึงตัวตนเดิมในแนวป๊อปของวงนักอบ อย่าง Superbaker ได้เลย วันนี้เรามีนัดสัมภาษณ์กับสมาชิกวงทั้งสี่ กอล์ฟ – ประภพ ชมถาวร (ร้องนำ), ฝน – วรางคณา ชวาลเวชกุล (เบส), ปิง – วิษณุ ภูมิถาวร (กีตาร์) และ กั้ง – อิทธิพร สุปรีชากร (กลอง) ที่ห้องซ้อมย่านลาดพร้าว สิ่งแรกที่พบคือบรรยากาศความอบอุ่น เป็นกันเองและความสุภาพที่อยู่คู่กับ Superbaker มาตลอดก็ยังไม่หายไปไหน เรามาติดตามกันดีกว่าว่า เหตุใดวงอบอุ่นเช่นนี้ถึงลุกมาปลดปล่อยด้านมืดของตัวเอง ใส่เสื้อหนัง เสื้อยืดวงร็อก เหยียบเอฟเฟคเสียงแตกอย่างเมามันในร่าง Starfish ในปี พ.ศ.นี้


วงอะไรที่เป็นแรงบันดาลใจของดนตรีร็อกในแบบ Starfish ที่ทำให้ Superbaker ลุกขึ้นมาฉีกภาพลักษณ์วงป๊อป

กอล์ฟ: ต้องตอบรวม ๆ เพราะว่าเรานึกถึงวงพวกอัลเทอร์เนทีฟ ยุคเก้าศูนย์ ส่วนถ้าจะแยกเป็นชื่อวง ก็แล้วแต่เพลง เรานึกว่าอยากทำวงอัลเตอร์ฯ ขึ้นมา เลยทำขึ้นมาด้วยสมองของเราที่ฟังเพลงแบบนี้มาตอนวัยรุ่น พอแต่งออกมา อิทธิพลรวมในหลาย ๆ วง แต่ว่าก็จะชัดในแต่ละเพลง

อย่างเช่นเพลงอะไรบ้างคะ

กอล์ฟ: โอเค อย่างเช่นในเพลงตื่น ก็จะเป็น Smashing Pumpkins ปน ๆ กัน Nirvana, Soundgarden เพียงแต่ว่าตอนเราเล่น สิ่งที่เช็ค เพราะเราทำเพลงเก้าศูนย์ใน พ.ศ. นี้ ก็คือเช็คเกือบทุกเพลงว่าเหมือนใครหรือเปล่า ถ้าไม่เหมือนก็คือโอเคเพราะเรากลัวมาก อย่างบางเพลงก็ Motörhead ไมใช่เก้าศูนย์ เพียงแต่ว่าเรารู้สึกว่ามีช่วงนึงที่ Lemmy (Ian “Lemmy” Kilmister นักร้องและมือเบส Motörhead) ตาย เราก็ ทริบิวต์ให้เค้าดีกว่า เพราะ Starfish โจทย์ก็คือ ทำอะไรก็ได้ เพราะตอนเป็นวงป๊อปก็จะมีทิศทาง ไดเร็คชั่นนิดนึง แต่ก็จะลงลึก ยังไง คำนี้คนชอบมั้ย แต่ร็อก คอนเซปต์เราทำตรงข้าม ก็จะแค่เช็คว่าร็อกพอยัง แล้วในสิบเพลงอยู่ด้วยกันได้มั้ย

กั้ง: อย่างเพลง “ยูเซนโบลต์” ก็ Motörhead

ปิง: ตอนที่แต่งเพลง “ภูเขาไฟ” คิดถึง Radiohead

ฝน: คือมันประมาณยุคนั้นอะไรแบบนี้

ปิง: “ภูเขาไฟ” นี่คือซาวนด์แบบเก้าศูนย์ ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นเลยครับ

กอล์ฟ: เพราะว่าผมกับปิงเป็นวัยรุ่นจริง ๆ ในยุคเก้าศูนย์ (หัวเราะ) ตอนเป็นวัยรุ่นก็ซึมซับแบบนั้น เราหัดกีตาร์เพราะอะไรแบบนั้น เวลาทำก็แค่ย่อยสิ่งที่เราฟังมาเฉย ๆ

HBK: ได้ชื่อ Starfish มาจากอะไร

ปิง: โห มันมาก ตอนแรกไม่ได้ชื่อนี้ ชื่อนี้มาจาก…

กั้ง: คิดมาหลายชื่อมาก เดี๋ยวนะ…

กอล์ฟ: ชื่อนี้มาหลังสุด ที่มา Starfish คือตอนแรกจะทำวงอัลเตอร์ฯ ร์ฯ คือตอนแรกผม กอล์ฟคนเดียวเนี่ย คิดว่าจะทำไซด์โปรเจ็กต์ จะทำวงอัลเตอร์ฯ ร์ฯ มันมาจากยุคนี้มีวงเด็ก ๆ เก่งมาเยอะ จัดงานเยอะ ผมก็อยากเล่นด้วย มันสนุก แต่ Superbaker ลงไม่ได้เลย ผมอยากมีส่วนด้วยเพราะว่ามันสนุก แต่ผมไม่รู้จะเล่นอะไร เด็กก็ไม่กล้าให้ไปเล่น เพลงด้วย ละก็แบบว่า กลัวนู่นนี่ ตอนแรกจะทำ ละพอทำขึ้นมาจริง ๆ ก็เก็บไว้ก่อน จนคุณเมื่อย Scrubb ทำวง Popdub เป็นกีตาร์บรรเลง นอกจาก Popdub ก็ทำออแกไนเซอร์ที่จัดงาน ชื่อ Dood เค้าจัดงานนึงขึ้นมาแล้วก็ชวน Superbaker เล่น แต่ห้ามเล่นซิงเกิลให้เล่นแต่ B-side (เพลงในอัลบั้มที่ไม่ใช่ซิงเกิล) เราก็แบบว่า B-side เราก็เบื่อแล้ว ให้เราโคฟเวอร์ก็ไม่ค่อยเก่ง เลยคิดว่า งั้นแต่งใหม่ดีกว่า บวกกับที่ผมคิดในใจ แต่ตอนแรกจะไปหาสมาชิกอื่น แบบที่คนอื่นเค้าทำกัน แต่กลับมาดูวงเรา โดยพื้นฐาน ก็ดูหน้าสิครับ (หัวเราะ) ใช่มะ ก็พื้นฐาน เชื้อมีหมดแล้ว นี่เล่นกีตาร์แนวร็อกมาก่อนด้วยซ้ำ (ชี้ไปทางปิง) เล่นเก้าศูนย์มา คุยกันก็รู้เรื่อง

ฝน: ขอเผานิดนึง ๆ ตอน Superbaker อัลบั้มหนึ่ง กีตาร์ที่เค้า (ปิง) ใช้อะ คือกีตาร์อะไรพี่

ปิง: Ibanez รุ่น Steve Vai (หัวเราะยกวง)

ฝน: เนี่ย เถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด แล้วเล่นกับ Superbaker อะ (หัวเราะ)

ปิง: มันก็โอเคคคค

ฝน: ไม่คือกำลังจะบอกว่า ก็ร็อกก็น่าจะอยู่ในสายเลือดเค้าอยู่แล้ว

กอล์ฟ: พอเราดูหน่วยก้านแล้วทำไมมองข้ามเรื่องนี้ไป ทุกคนมีความร็อก

ปิง: อย่างฝนก็เคยมาจากร็อกมาก่อนร็อกมาก่อน

ฝน: ก็เล่นแบคอัพให้ Monkey Pants เป็นพังค์ ป๊อป ประมาณนี้

ปิง: ส่วนตัวนี้ไม่ต้องสืบเลย (ชี้ไปทางกั้ง)

กอล์ฟ: คุณกั้งก็ หน่วยก้านก็รู้อยู่แล้ว ทำไมไม่ทำวงเราไปเลย ก็เป็นการสร้างสตอรี่ใหม่ให้วงการด้วย ก็ไม่ได้วงการอะไรขนาดนั้นหรอก แต่ไม่มีใครทำที่เป็นวงหน้าเดิมเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนแนว ถ้านึกดูก็ยังนึกไม่ออก งั้นเราจะทำ เพื่อไปลงงาน Popdub เนี่ย เราแต่งเพลงได้ ก็อยากแต่งเพลงที่ว่า แต่งเพลงขึ้นในห้องซ้อมเลย Superbaker ตอนนั้นทำมาสิบสองปี ก็เบื่อเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้จะยุบ Superbaker นะ ด้านป๊อปก็ยังต้องมีอยู่ แต่ก็ทำ ไม่มีอะไรจะเสีย เลยทำ ตอนแรกตั้งชื่อกันแบบ…

ปิง: โห ผมจำได้เลย I Burn My Kitchen (หัวเราะ)

กอล์ฟ: ในห้องไลน์นี่สนุกมากเลย ที่ตอนแรกเป็นแบบ เผาครัว จะร็อกกันไปไหน

ฝน: โคตรชอบเลย (หัวเราะ)

กอล์ฟ: หลายชื่อเอามาจากเรื่องจริง จะได้นึกออก คุณปิงจะมีเรื่องเยอะมาก ตอนเด็กจะเผาห้องครัวตัวเอง ชื่อนี้มันพังก์ดี

ปิง: เป็นเหตุมาจากเพื่อนบ้านไฟไหม้ โรงเรียนเลยออกตังค์ ตรรกะก็ เผาบ้าน จะได้บ้านใหม่ ก็เลยเผาบ้านตัวเอง ตอนอายุสิบสอง

กอล์ฟ: นี่ก็หนึ่งในชื่อ แต่พอคุยกันแล้วเราก็ เอ้ พิธีกรประกาศ มันก็คงตลก เขิน เราก็เอาชื่อที่เราไม่เขิน

ฝน: ขอเชิญพบกับ I Burn My Kitchen! (หัวเราะ)

กอล์ฟ: ชื่อ Starfish มาจาก ผมก็ลองนึกดู อันนี้ต้องแยกไปอีกเรื่อง ตอนอยู่ Smallroom เคยไปเอ้าติ้งกับค่าย มี Armchair, Penguin Villa มีเรา, เจ (Penguin Villa), โย่ง (Armchair) ไปเล่นทะเลกัน เล่นแล้วก็ชอบคิดเกมกัน ใครหยิบอะไรในทะเลได้จะเป็นชื่อวงของเราสามคน แล้วมันมีมนุษย์คนนึง ที่หยิบได้ปลาดาว แต่ผมจำไม่ได้ว่าใคร ไม่รู้ผมหรือโย่งหรือใคร แล้วผมก็ เอ้อ Starfish นี่แหละ ทั้งที่เราไปเช็คชื่อแล้วมันก็ซ้ำ อย่างเมืองนอกก็มีอยู่ วงอินดี้เมืองนอก แต่เรื่องราวใช่ ทุกคนก็โอเคกับ Starfish มันก็ดูอัลเตอร์ฯ ร์ฯ ดี ไม่ใช่ I Burn My Kitchen ซึ่งออกไปทางพังก์

ปิง: ผมดีใจมากที่ชื่อ Starfish ผมขี้เกียจเล่าเรื่องนี้ (หัวเราะ)

กอล์ฟ: อย่าง กะโหลกผีอะไรงี้ มันก็จะเมทัลไป เราก็ไม่ได้ใต้ดินขนาดนั้น (ฝน: มันดูหนักกว่าเพลง) ซอมบี้สีชมพู มันก็ไม่ดี ตั้งใจเหลือเกิน Starfish ก็ดูพอดี กลาง ๆ อัลเตอร์ฯ แล้วก็จำง่าย

การทำ MV สองตัวแรกกับน้อง ๆ เด็กฟิล์ม ลาดกระบัง เป็นยังไงบ้าง วงรู้สึกยังไงในการทำงานกับเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังมีไฟ

กอล์ฟ: ที่มาก็คือ มีอาจารย์เอี๋ยน เป็นอาจารย์สอนทำหนัง ก็มาติดต่อผ่านพี่คนนึง ถามว่า นักเรียนเค้าก็ต้องการพอร์ทที่เป็นวงจริง ๆ เราก็ไม่มีงบ พูดง่าย ๆ ว่าต้องการทำคนทำหนังฟรีที่มีสกิลหน่อย ก็คือ Win-Win พอดี หลักของ Starfish คือทุนต่ำอยู่แล้ว เพราะพวกเราก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร น้องเค้าก็เลือกเพลงกัน คิด (สตอรี่)บอร์ด เราก็ช่วยคิด แล้วก็คอยดูว่า โปรดัคชั่นเสร็จแล้วเป็นยังไง

ฝน: สำหรับฝน ฝนว่าเหนือคาด รู้สึกว่า คนที่เรียนยังไม่จบ แต่ว่าทำโปรดัคชั่น คิดเรื่องมาได้ค่อนข้างร้อยเปอร์เซ็น ตอนอยู่ในกองก็ไม่รู้สึกว่าเป็นกองนักศึกษา รู้สึกเหมือนกองจริง ๆ เด็กสมัยนี้พัฒนาไปไวมาก เหมือนทำงานกับมืออาชีพ ไม่ใช่แบบ กังวลว่า MV จะเป็นยังไง จะออกมายังไงตอนที่ถ่าย

กอล์ฟ: เราได้ยินว่าเด็กภาพยนตร์ลาดกระบังเก่งอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ชัดเจนเลย สถาบันก็สนับสนุน มีสตูดิโอมีจัดแสง ทุกคนโปร ไม่มีใครดูขัดเขิน

ปิง: เหมือนกองจริงจัง เป็นมืออาชีพมาก

กอล์ฟ: ก่อนหน้านี้เราก็เคยถ่าย MV มา บางกอง MV Superbaker ยังดูเขินกว่านี้เลย (หัวเราะ) แต่อันนี้โปรมาก มีแบบจัดแสง ทำพัดลมหมุน ๆ ในบางเพลงดูร็อกมาก

ปิง: มีมาร์คไฟ พี่ ตรงนี้ ๆ แต่ละทีมจะต่างกัน

กอล์ฟ: คือเค้าแบ่งกัน เหมือนเป็นงานกลุ่มของเค้า ก็จะไม่ซ้ำ

ปิง: สไตล์แตกต่าง เพลงตื่นก็ดิบ ๆ เพลงที่สองก็เนี้ยบ ๆ หน่อย

กอล์ฟ: มี Symbolic ประทับใจแรกคือโดยรวมเก่งมากจริง ๆ เราทำ Starfish ก็อยากทำอะไรใหม่ ๆ พอเจอกับคนรุ่นใหม่ มันก็ยิ่งเติมไฟให้เราที่เป็นวงแก่ อันที่สองก็คือไม่เสียตังค์ (ปิง: เรื่องนี้เลย (หัวเราะ)) Win-Win เค้าได้พอร์ท เราได้งาน

ฝน: น้องกลุ่มบันทึกพิศวาส ตอนแรกที่รู้ว่าทำให้ Superbaker เค้าก็คาดหวังวงมุ้งมิ้ง พอรู้ว่าต้องทำเพลงบันทึกพิศวาส เค้าก็เหนือคาดเหมือนกัน

กอล์ฟ: เค้าก็ฟังวงป๊อปเรามา ก็สนุกดี

อันนี้พี่ ๆ เข้าไปทำตั้งแต่เริ่มเลยมั้ยคะ หรือว่าดูอยู่ห่าง ๆ

กอล์ฟ: ผมคนเดียว ต้องเข้าไปตั้งแต่เค้าพรีเซนท์บอร์ด แล้วก็สมาชิกอื่น ถ้าใครว่าง (ฝน: ฝนไป พี่ปิงไป) ตอนตัดต่อก็มาคอมเมนท์ เพราะว่าเราก็คุยกับอาจารย์แล้วว่า ทำเหมือนจริง คอมเมนท์กันตรง ๆ

ฝน: เพราะในชีวิตจริง ก็ต้องมีลูกค้ามาคอมเมนท์งานเหมือนกัน เราก็อยากให้เค้าได้ประสบการณ์จริง ๆ

ได้ทำเพลง Rock ครบทุกแบบที่อยากทำหรือยัง

กอล์ฟ: ยังครับ (หัวเราะยกวง) มันน่าตกใจที่ว่า เราไม่ตันเลย ทั้งที่ทำวงป๊อปมาตลอด พอเริ่มทำ Starfish คิดได้เรื่อย ๆ นี่ตัดออกแล้วไปแล้วด้วย ก็มาคิดว่าทำไม คงเพราะมันเป็นเชื้อในตัว แล้วเราก็ไม่หยุดฟังเพลง แม้แต่ร็อกยุคนี้ที่ไม่ใช่อัลเตอร์ฯ อาจจะไม่เยอะเท่าคุณอู๋ The Yers คำถามที่เราชอบถามเด็ก ๆ คือ ฟังอะไรกัน ด้วยความที่แก่ เราก็สามารถรวมสิ่งที่เราฟัง ใหม่กับเก่า แต่คิดว่าไม่ตัน อย่างวันนี้ก็ยังทำได้

ฝน: (กอล์ฟ) เพิ่งพูดเองว่า แต่ง Starfish เพลงใหม่ได้อีกนะเนี่ย! ฝนก็แบบ คืออัลบั้มแรกยังไม่ปิดจ็อบเลย จะแต่งอีกแล้วเหรอ (หัวเราะ)

กอล์ฟ: ผมก็ไม่ได้อัดไว้ เดี๋ยวอัดแล้วต้องลงลึกอีก อย่างอัลบั้มนี้ก็มีที่ช่วยกันด้วย อย่างคุณปิงก็แต่งหนึ่งเพลง คุณกั้งหนึ่งเพลง ฝนก็ช่วย arrange มีโซโล่เบสด้วย

ฝน: เอ้อออ คนนี้คิด คนนี้คิด (ชี้ไปทางกอล์ฟ) คนนี้(ฝน)ไม่ได้คิด (หัวเราะ)

ทำไมถึงเลือกทำอัลบั้มเต็มอะคะ เพื่อที่จะปลดปล่อยหรือเปล่า

กอล์ฟ: ใช่ แล้วเราก็รู้สึกว่า การฟังเพลงเป็นอัลบั้มเต็มมันดี เพราะเราทันยุคนั้น มันได้รู้ประวัติศาสตร์ของวงนั้น ๆ ถ้าคิดแค่เพลงสองเพลงมันไม่พอ มันมีเรื่องที่อยากจะพูดอยู่ ถึงในเพลงมันจะไม่รู้เรื่อง แต่จริง ๆ มันก็มีสาสน์ที่จะพูด คิดว่าทุกคนน่าจะเต็มอิ่ม โดยเฉพาะแฟนเพลงร็อก น่าจะอินกับเรื่องทำอัลบั้ม เค้าอุดหนุนกันเรื่อย ๆ ทั้งระดับเล็กระดับใหญ่ เราก็เลยคิดว่าจะคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมนี้เลยครับ การทำเพลงเป็นอัลบั้ม แต่จริง ๆ Superbaker ก็ทำเป็นอัลบั้ม อยากให้คนฟังเป็นอัลบั้ม อยากให้คนรู้ว่า ช่วงนี้รู้สึกยังไง คือเราไม่ปฏิเสธ Streaming นะ เพราะเราก็ฟังอยู่ ก็ใช้อยู่ มันก็ดี แต่มีช่วงนึงที่ต้องมาฟังซีดี ก็คือทำเองนี่แหละ ทำ Starfish เสร็จแล้วมก็ใส่ในรถ เปิดฟัง มันก็ดีกว่าจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่เราก็เป็นแฟน Streaming นะ แต่มันคนละหน้าที่กัน มันต่อเนื่อง ต้องตั้งใจฟัง คนยุคนี้สมาธิสั้น ก็ไม่ผิดอะไร เป็นเรื่องเทคโนโลยีที่มันหมุนไป แต่ถ้าเราช้าซักหน่อย ฟังเป็นอัลบั้ม มันจะได้หลายอย่าง ซึ่งชาว HEADBANGKOK ก็รู้อยู่แล้ว

อย่างนี้ Superbaker จะกลับมามั้ยคะในปีนี้

กอล์ฟ: ปีนี้น่าจะปล่อยซักเพลงนึง ในปีนี้ 95 เปอร์เซ็นทุ่มให้ร็อก ให้ Starfish แต่เพลงป๊อปก็ต้องทำ เพราะมันก็มีความคิดถึง อย่างเวลาฟังเสียงแตกมาก ๆ ก็เบื่อเหมือนกัน ก็มีความแบบ อยากมุ้งมิ้ง อยากดราม่า ผมก็เขียนไว้แต่ไม่ได้ arrange

ยังอยากทำ Side Project อีกมั้ย

กอล์ฟ: จริง ๆ ทุกคนก็มีอยู่แล้วครับ

กั้ง: ทำวงเมทัลกับเพื่อน ๆ ชื่อ Silent Shore

ปิง: อิเล็กโทรนิคป๊อป ๆ ครับ วง Around the 3rd World

กอล์ฟ: ผมจะทำเดี๋ยวเป็นโฟล์คอีก เราก็ชอบ คือเราหลงใหลกับ คนที่อยู่กับกีตาร์ตัวเดียว เล่าเรื่อง เปิดเพจแล้ว ชื่อ Folkgolf แต่ยังไม่มีเพลง (หัวเราะ) (ฝน: จองชื่อไว้ก่อน (หัวเราะ)) ตอนนี้ยังไม่ทำ ทำไม่ทันจริง ๆ แต่หลังจาก Superbaker ออกชุดใหม่ Starfish ได้ประมาณนึงแล้ว ค่อยปล่อย ไม่อยากให้มันตีกัน

วิธีคิดในการทำเพลงของ Superbaker กับ Starfish ต่างกันมั้ยคะ

ฝน: ต่างมากกกกก

ปิง: ผมพูดได้เลย Superbaker คิดแบบมีโจทย์ตลอด ทำยังไง คนชอบหรือเปล่า แต่ Starfish ทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ เอาเลย โจทย์เป็นงี้มากกว่า ทำอะไรก็ได้อย่างที่เราชอบจริง ๆ

กอล์ฟ: ไม่ได้ไม่ชอบ Superbaker นะครับ แต่มันคนละด้านกัน อย่าง Starfish มันคือ ทูตจิตวิญญาณก็จะลอยมา เป็นการปลดปล่อย แต่อันนั้นมันท้าทายด้วยการมีโจทย์ การทำเพลงเพราะ มันยาก ทำยังไงให้ออกมาง่ายแล้วก็เพราะตลอดเวลา แต่ Starfish คือ ทำไปเหอะ ผมว่านักดนตรีก็ควรจะมีสองต่อมนี้สลับกัน จะได้พอดี พอหลัง Starfish ผมก็เริ่มคิดถึงเพลงเพราะ สลับกันจะได้ไม่เบื่อ

ฝน: อันนี้ขอเสริมในเรื่องการขึ้นเพลง คือ Superbaker ไม่สามารถขึ้นเพลงในห้องซ้อม หมายถึงว่า โยนมาปุ้บ อะ จบหนึ่งเพลง ทำอย่างนั้นไม่ได้ Superbaker ฝนต้องขึ้นจากคอมฯ ให้ เพื่อให้ Q.C. ก่อน ผ่านมั้ย แล้วค่อยขึ้นทั้งเพลงเต็ม ๆ จากคอมฯอีกที แล้วค่อยมาแกะเป็นการเล่นสด แต่ Starfish โยนมาเลย เปลี่ยนแนวกันในห้องซ้อม

ปิง: โจทย์ Superbaker ผมต้องฟังแล้วกลับไปคิดที่บ้าน แต่ Starfish ลุยเลย

กอล์ฟ: Superbaker เครื่องดนตรีมีหลายชิ้นที่เราไม่มี Keyboard เราก็ไม่มี เครื่องสาย เครื่องเป่า ต้องโปรแกรมขึ้นมา แต่อันนี้ตั้งใจหลุดจากสิ่งที่เราคุ้นเคย เสียงแตกเพิ่งหัดใช้เองครับ

กั้ง: ก็ไม่กดดันดีตอนทำ

ปิง: ไม่กดดันทั้งสองอย่าง Superbaker ไปคิดมาก่อน แล้วกลับมาคุยกัน

ฝน: Superbaker ฝนจะกดดันเครื่องที่ไม่ใช่เบส คือฝนถนัดเล่นเบส แต่ Superbaker จำเป็นต้องมีเครื่องที่ไม่ใช่เบสในเพลงด้วย อย่างไซโลโฟน เปียโน ซึ่งพูดตรง ๆ ว่าไม่เซียนขนาดนั้น ฝนจะเครียดมาก แต่ถ้า Starfish ฝนโฟกัสแค่เบส เลยจะไม่เครียดขนาดนั้น

กอล์ฟ: มันสนุกมากเลย คือผมเพิ่งใช้เสียงแตกเป็นสองปีนี่เอง ผมก็ถามทุกคนเลย ใช้อะไรกัน ไม่รู้ว่าใช้เอฟเฟคอะไร คือผมมีเสียงในหัว ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ต้องถามเพื่อน ใช้เอฟเฟคตามทีเพื่อนบอก ก็ตลกดี เป็นวงหน้าใหม่อีกทีก็มันมาก ได้เล่นงานที่สตูเฟ่ มันก็เหมือนเปิดประตูนรก มันมีปีศาจออกมา เอาแล้วเว้ย จำได้เลย หลังจากนั้นก็ชอบการเล่นสดมากเพราะมันได้ปลดปล่อย ยิ่งการร้องนี่ ผมก็ไม่ได้ร้องเหมือนเดิม ปกติผมเป็นคนเสียงบาง หาวิธีร้องนานมาก แต่พอเจอการตะโกนก็รู้สึกดี

ฝน: ขอเสริมอีกเรื่องค่ะ บอกว่า Superbaker เครียดเรื่องการขึ้นเพลง แต่ Starfish ฝนเครียดการแสดงสด เพราะ Superbaker แทบไม่ต้องทำอะไรเลย ฝนแค่ยิ้ม อ้ะ สวัสดีค่า แต่ Starfish ยิ้มไม่ได้ ฝนห้ามยิ้ม! (หัวเราะ) ห้ามยิ้มแล้วให้ฝนทำอะไร ผมยิ้มมาตลอดทั้งชีวิต (หัวเราะ) (ปิง: ผมเป็นด้วย ๆ) เครียดมาก เล่นสดครั้งแรกต้องทำยังไง อะ ก็ต้องดุ้กดิ้ก โยก ผมต้องเคลื่อนไหว มีมูฟเม้น ปรากฏว่าโชว์แรกปวดคอมาก! ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนในชีวิต แล้วมาทำตอนแก่ ปวดแบบขยับไม่ได้

ปิง: ปกติเวลาไปถ่ายปก ถ่ายรูป ทำเป็นยิ้ม คุยกัน Starfish ถ่ายมาล่าสุด “ไอ้ปิง! มึงยิ้มทำไมวะ” (หัวเราะ) ทำหน้าร็อก ๆ

ฝน: แล้วต้องทำยังไง (หัวเราะ)

กอล์ฟ: เลยให้ฝนใส่แว่นกันแดดไปเลย ตอนนี้ก็ลงตัวแล้ว เริ่มรู้จริตวงร็อกมากขึ้น แต่ไม่ได้ก้าวร้าวขึ้น ไม่ได้ออกไปแล้วเตะใคร

ฝน: คือส่วนตัวเครียดมาก มันถึงคำว่าร็อกหรือยัง เราไม่อยากทำครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไม่อยากแบบว่า ว้าย ใช่เหรอ

กอล์ฟ: เชื่อมั้ยว่าตอนทำใหม่ ๆ ผมไปเล่นที่ไหน ผมถามวงร็อกที่เป็นเพื่อนว่า ผ่านมั้ย ๆ ผมถาม Brown Flying, The Jukks, The Yers, พี่ตุล อพาร์ทเมนท์คุณป้า, Lomosonic แล้วคนเหล่านี้ approve ผมโอเคแล้วนะ (หัวเราะ) อย่างพี่ป๊อก Stylish Nonsense ผมไปขอเค้าเล่น งานเค้าชื่อว่า Intern Rock ร็อกฝึกงาน ดีใจมาก ความรู้สึกมันรีเฟรช หน้าใหม่ ผมไปเล่นด้วยความสุข

กั้ง: Process ตอนอัดเพลงสนุกมาก ผมจะอยู่คู่กับพี่ปิง ผมอยู่หน้าคอม พี่ปิงอัด ตอนคิดโซโล่ ปรับตู้กีตาร์ สนุก Enjoy มาก

ปิง: มีเพลงนึง บอกเลยว่าวงเราจน (หัวเราะ) ที่นี้การอัดตู้มีค่าใช้จ่ายสูงมาก ผมก็เลย “กั้ง ๆ เราลองใช้ปลั๊กอินโง่ ๆ กันมั้ย” (หัวเราะ) แล้วผมก็ปรับปลั๊กอินในคอม วันนั้นปรับกันอยู่หกชั่วโมง พอเจอปุ๊บ ยาวเลย เราได้ใกล้ที่สุด ด้วยงบประมาณที่เรามีขนาดนี้

กอล์ฟ: แล้วที่กรี๊ดคือ พอปล่อยไป เพื่อนชมว่าซาวนด์ดี ผมก็โอ้โห เหลือเชื่อ ดีใจมาก (หัวเราะ)

ปิง: ขอบคุณคุณป๊อป ภูเบศร์ (Silent Shore) ด้วย ช่วยเยอะมาก ช่วยปรับซาวนด์

กั้ง: เรื่องคิดโซโล่พี่ปิงไม่ธรรมดา คือตอนอยู่ Superbaker นี่ ผมจะไม่ได้ยุ่งอะไรกับพี่ปิงมาก พี่ปิงรู้จริตเพลงป๊อป แต่พอมาเป็นร็อก คิดโซโล่กับพี่ปิงสนุกมาก “พี่ปิง ลองดันสองสาย” พี่ปิงได้หมด “ลอง Wah-Wah ซิพี่ปิง” พี่ปิงทำได้หมด

ปิง: ทำได้หมดแหละครับยกเว้นทำดี (หัวเราะ) ยกเว้นทำให้ดี เราก็ยังหน้าใหม่อยู่ถ้าเป็นเพลงร็อก

กอล์ฟ: เราว่าโลกแห่งเสียงแตกมันสนุกดี ตอนนี้คือพอกลับมาฟังวงเก้าศูนย์ สนุกดี รากเค้าเป็นวงไหน แล้วมันสนุกดี ชุดหน้าก็ได้อะไรอีกเยอะ

ปิง: ชุดหน้าสัญญาว่าจะอัดตู้แอมป์ (หัวเราะ)

งานอดิเรกปัจจุบันของพี่ ๆ ทุกคนในตอนนี้

ฝน: โหเยอะมากเลยอะ (หัวเราะยกวง) เอาคนอื่นก่อนได้มั้ย ฝนก็มีปลูกกระบองเพชร ซึ่งแบบ ตอนแรกเยอะมาก ตอนนี้น้อยลง เพราะพื้นที่ไม่อำนวย คือเพราะแดดเยอะไป ปกติชาวบ้านมีแต่แดดน้อย มันมีที่นึงแดดเยอะมากกับแดดน้อยมาก แดดเยอะก็ไม่ได้มันไหม้ แดดน้อยมันก็ยืดเสียทรง ตอนนี้เลยเหลือประมาณนึงที่รับสภาพนี้ได้ ละก็ แกะยางลบทำเป็นแสตมป์ (ปิง: อันนี้จริงจังมาก ผมเคยเรียนแล้วครับ ไม่รอด (หัวเราะ)) เริ่มจากยางลบจริง ๆ ก่อน แล้วก็ไปซื้อยางสำหรับแกะโดยเฉพาะ แล้วก็เริ่มพัฒนาจากคัตเตอร์ถูก ๆ พอแกะมาซักพักก็เริ่มซื้อคัตเตอร์ที่คมขึ้น ซื้อมาสนุกสนาน ไปปั๊มผ้า ปั๊มเสื้อ สนุกมาก สนุกจริง ๆ แล้วก็ตอนนี้เริ่มทำคาดผม ซื้อลูกไม้มา (กอล์ฟ: เยอะมั้ย ๆ อันที่สามแล้วนะ (หัวเราะ)) คาดผมแบบ เอาเศษลูกไม้มาเย็บใหม่ คือเย็บมือเอง เริ่มจากลองทำเย็บดอกสามมิติ ลองขึ้นดู ยังไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่แต่ก็สนุกดี ค่ะ ประมาณนี้ค่ะ (หัวเราะ)

กอล์ฟ: ของผมจะไม่หนีงานมาก ก็เป็นดูหนังฟังเพลง แต่ตอนนี้ที่อินสุดคือแผ่นเสียง ผมเพิ่งเปลี่ยนเทิร์นมา ชีวิตดีขึ้นมาก ผมอินเพราะว่า

ปิง: ระวังลามนะ

กอล์ฟ: เงินไปไม่ถึงอยู่แล้ว (หัวเราะ) แต่คงไม่ได้เล่นเหมือนคนที่ไปถึงคุณภาพเสียง ผมอินแผ่นยุคนั้นจริง ๆ แต่ไม่ได้ซื้อแพงมาก ขอให้เป็นผลิตปีนั้นก็พอ ทุกแนวเลยครับ ตอนนี้อินเพราะต้องตั้งใจฟัง ต้องกลับหน้า ห้ามทำอะไร อะ ตอนนั้นเค้าอัดอย่างนี้ มีตั้งแต่คลาสสิค ป๊อป แจ๊ส ร็อกก็กำลังจะมา พอทำอัลบั้มก็ค่อยเพลา ๆ ลงหน่อย ผมเพิ่งเปลี่ยนเทิร์นไปเพราะว่าเครื่องเก่าเป็นเครื่องพกพา ประสิทธิภาพแผ่นไม่ออก พยามไม่เข้าไปดูเว็บแผ่นเสียง สั่งอยู่สามเดือนมันจนมาก (หัวเราะ) ทุกคนก็เตือน ตอนนี้ก็เลิกแล้ว สนใจมั้ยวะ (หันไปหากั้ง) (หัวเราะ)

กั้ง: ไม่ครับผมซีดีก็พอ (หัวเราะ)

มีประมาณกี่แผ่นคะ

กอล์ฟ: ตอนนี้น่าจะประมาณห้าถึงหกสิบแผ่น กลัวจะเยอะกว่านี้ (กั้ง: เยอะกว่าแน่นอน (หัวเราะ)) อีกอันก็คือ เดินทาง แต่ว่าอันนี้เป็นโปรเจคใหญ่ มันแพง ผมตั้งใจจะเที่ยวปีละครั้ง เที่ยวต่างประเทศ แต่ปีไหนไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะว่ากลับมาได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็น

กั้ง: คล้าย ๆ พี่กอล์ฟ แต่ช่วงปีสองปีนี้ จะอ่านหนังสือเยอะขึ้น ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่อ่านเร็วขึ้น เร็วกว่าเดิม ปกติไปงานหนังสือจะซื้อประมาณนึงสิบกว่าเล่ม มันก็จะมีระยะเวลาของมันอยู่ ส่วนใหญ่เหลือ ๆ ไปงานอีกที แต่ปีสองปีที่ผ่านมา ที่ซื้อมาสิบกว่าเล่มทุกครั้งจะหมดก่อนงานหนังสือครั้งต่อไป เริ่มอ่านเร็วขึ้น หลัง ๆ เริ่มอ่านนิยาย วรรณกรรมเก่า ๆ กำลังเอนจอยกับการอ่านหนังสือ กำลังแอบ ๆ เริ่ม ๆ คิดว่าจะเขียนอะไรบางอย่าง (สมาชิกคนอื่นแซวรัว ๆ) ทดลองเขียนไว้ในคอมที่บ้าน เขียนอะไรไว้ในคอม

กอล์ฟ: แนวไร ๆ

กั้ง: หลายแบบ มีลึก ๆ ลับ ๆ อันนึง เกือบ ๆ จะผีแต่ยังไม่เชิง (กอล์ฟ: อะไรวะเกือบผี (หัวเราะ)) แบบลี้ลับ แต่อาจจะไม่ใช่ อาจจะเหนือธรรมชาติ แต่ก็อาจจะไม่เหนือ มีหลายแบบ ประมาณนั้น ๆ

ปิง: งานอดิเรก ทำอาหารบ่อยมาก ยิ่งกว่าซ้อมดนตรีอีก

กอล์ฟ: กลัวโดน ๆ (หัวเราะ)

ปิง: มอบเลยครับ ยอม (หัวเราะ) ตอนนี้มีเมนูเด็ดหลายอย่าง พูดไม่ได้ ต้องไปลองชิมเอง ตอนนี้หัดทำข้าวซอย ทำอาหารครับ เป็นงานอดิเรก แล้วก็มีอีกอันที่สำคัญมาก ๆ ผมจะฝึกเล่าเรื่องผีครับ (หัวเราะ) เพราะผมฟังมาก่อน แล้วก็รู้สึกว่าต้องคลี่คลายบ้าง เหมือนเล่นดนตรี ฟังมากก็อยากเล่า

กอล์ฟ: ก็เข้าใจนะแต่มันยังไงไม่รู้ (หัวเราะ) มันกลายเป็นความเชี่ยวชาญได้ยังไง

ฝน: พี่เจอเยอะมากจนมาเล่าได้เรื่อย ๆ เลยเหรอ

ปิง: บางเรื่องที่ฟังมา บางเรื่องเราคิดขึ้นเองก็ได้

ขอหนึ่งเรื่องได้มั้ยคะ

ปิง: ไม่ได้ครับ เดี๋ยวจะกลัว (หัวเราะ)

กอล์ฟ: ปิงเค้าโทรไปเล่าเดอะช็อกมาแล้วครับ เป็นไงครับฟีดแบค

ปิง: ฟีดแบคครับ ฮิปสเตอร์ครับ ไม่มีความน่ากลัวเลยครับ กลายเป็นเรื่องตลก (กอล์ฟ: ผมนั่งฟัง เมื่อไหร่จะเข้าเรื่องผี (หัวเราะ)) ที่จริงอยากเสนอแนวใหม่ ทางเลือก เรื่องผีไม่จำเป็นต้องน่ากลัวเสมอไป ตลกบ้างก็ได้ แต่ว่าซิงเกิลหน้าจะเข้มข้นมาก (หัวเราะ)

ฝน: ได้ ก็ได้ (หัวเราะ)

กอล์ฟ: แต่จริง ๆ คุณปิงจะเขียนหนังสือดีด้วย

ฝน: คือคุณปิงเคยเป็นกองบก.มาก่อน ที่ไหนคะพี่

ปิง: หนังสือ Film and Stars

ฝน: แกะเทปสนุกมั้ยครับ (หัวเราะ) (คนสัมภาษณ์หัวเราะด้วย)

ปิง: สนุกมากครับ บางทีไปสัมภาษณ์บางคน ซึ่งแบบ เราก็ฟัง เวลาแกะเทป บางทีก็แบบ เออพี่ ผมพูดเองก็ได้ (หัวเราะ) ผมรับคอลัมน์นึงซึ่งผมชอบมาก เป็นคอลัมน์ดูดวง

กอล์ฟ: แล้วคุณมีความรู้เหรอ

ปิง: ไม่มีเลยครับ (หัวเราะ) มา เอาสนุก ๆ ช่วงนี้อากาศเย็นนะครับ เดือนมกรา ระวังสุขภาพนะครับ คนที่เกิดเดือนนี้ เวลาเดินทางก็ระวังความปลอดภัยด้วยนะครับ การใช้จ่ายก็ระมัดระวังเงินนิดนึงนะครับ

กอล์ฟ: แฟน Film and Stars คงรู้แล้ว (หัวเราะ)

ฝน: แล้วพี่เขียนดวงนานแค่ไหน

ปิง: โอ้ย เกือบปีอะ

ฝน: แล้วพี่ไม่มีหมดมุกเหรอ

ปิง: ไม่หมด ผมก็พูดได้เรื่อย ๆ (หัวเราะ)

กั้ง: คนเข้าไปอ่านคงแบบ เห้ย ดวงเรา แม่นว่ะ

กอล์ฟ: มีคนบอกว่าแม่นบ้างมั้ย

ปิง: ไม่มีแม่นเลยครับ (หัวเราะ) คือพูดกลาง ๆ เรื่องคู่ครองก็ระวังนะครับ ระวังปัญหากระทบกระทั่งเล็ก ๆ น้อย อาจจะเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตก็ได้

กอล์ฟ: คือ Common Sense ล้วน ๆ (หัวเราะ)

ปิง: ใช่ครับ (หัวเราะ)

ที่มาของชื่ออัลบั้ม Burokuta และความพิเศษของอัลบั้มนี้

Starfish: (หัวเราะลั่น)

กั้ง: พี่ปิงถอดแว่นทำไมครับ (หัวเราะ)

ฝน: ให้พี่ตอบเลย คนอื่นไม่ตอบ (หัวเราะ)

ปิง: ไม่อยากเล่า เล่าให้หน่อย พี่เล่า ๆ มึงเล่า ๆ ให้หน่อยดิ กูยังไม่รู้เลยมันถูกหรือผิดเนี่ย

กั้ง: ผมยังไม่รู้เลยผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ (หัวเราะ)

ฝน: ฝนเล่าเอง ๆ (หัวเราะ) พี่ปิงมาพูดกับกอล์ฟอะค่ะ “พี่กอล์ฟ ๆ ! ในเซเว่น! อร่อยมากเลย! บุโรคูตะ!!! (หัวเราะ) หมูบุโรคูตะอร่อยมากเลย!”

ปิง: มันคุโรโบตะ….

กอล์ฟ: อ้าวเห็นมั้ย ๆ ยังผิดอยู่เลย (หัวเราะ)

ปิง: ไม่อยากเล่าเลย กลัว

กอล์ฟ: ชุดความคิดคุณปิงจะต่างดาวหน่อย บางคำเค้าจะจำแบบเฉพาะตัว คือทำวงอัลเตอร์ฯ ทำอะไรก็ได้ ขอตั้งชื่อมัน ๆ ดีกว่า สังเกตชื่อวงเก่าเป็น I Burn My Kitchen บุโรคุตะมันก็มีกิมมิคที่ดี

ปิง: มีกิมมิคยังไง (หัวเราะ) อยากรู้จริง ๆ

กอล์ฟ: นี่ไง เห็นมั้ยเค้า (HEADBANGKOK) ตั้งคำถาม (ฝน: ทำไมเป็นบุโรบูตะ ไม่คุโรบูตะ) เห็นว่าวงฝรั่งก็ทำกัน เอาชื่อนี้แหละเดี๋ยวชุดหน้าคอยดูว่าปิงพูดอะไรผิดอีก ให้เป็นเทคนิคของวงเราเลย (ฝน: เอ้อ เอา!) ฝากด้วยนะ ไปคิดมา

ปิง: รุ้สึกเหมือตัวบ๊วยยังไงก็ไม่รู้ (หัวเราะ)

หน้าปกอัลบั้มใครเป็นคนทำคะ

กอล์ฟ: Artwork เป็นเพื่อนที่ทำให้ Superbaker ชื่อคุณฝ้าย ทำให้ตั้งแต่สมัยอยู่สมอลล์รูม เค้าเข้าใจวงเป็นอย่างดี ด้านร็อกยังเข้าใจเราเลย พอไปคุยว่าเก้าศูนย์ก็มาเป็นฉากเลย

ฝน: ภาพปกเป็นฝีมือคุณกอล์ฟ

กอล์ฟ: เป็นภาพหมาสองหัว มาจากร้านกาแฟแถวบ้าน มันโผล่มาพอดีผมก็ถ่ายไว้ รูปก็ จากที่เราไปนู่นไปนี่มาก เนื้อในชุดนี้ จะว่าเขียนมั่ว ก็ใช่ เนื้อก็มาจากเราซ้อม ได้ยินคำไหนก็เขียนมา ผมมานั่งดูเนื้อแต่ละเพลงมีเหตุผล แต่ว่าไม่จำเป็นว่าแฟนเพลงจะต้องเข้าใจเป๊ะ ๆ เหมือนวงเมืองนอก จะตีความแบบเค้าก็ได้ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวผม แต่โดยรวมมีความรู้สึกของเพลงทีอินร่วมกันอยู่ อย่างเพลงแรกชื่อว่างูหางกระดิ่ง อาจจะตีความ เป็นความน่ากลัว ความตาย ความเจ้าเล่ห์ แล้วแต่ พยายามทำให้เพลงมีเนื้อหาหลาย ๆ แบบ แต่ในเพลงผมไม่มั่วนะครับ เพราะว่าตอนเขียนเพลงป๊อปจะมีการคิดให้รู้เรื่องอยู่แล้ว ซิงเกิลใหม่ ไอ้หนุ่มรถไถ น่าจะตรงที่สุด เราพยายามทำเพลงแบบหนัง เพราะเราดูหนังคัลท์เยอะ พวก Kill Bill สิงห์คะนองนา ฟ้าทะลายโจร เราคิดมาว่าอยากทำเพลงแบบนั้น เลยทำเพลงชื่อไอ้หนุ่มรถไถนี่แหละ ใจผมอยากทำแบบ Motörhead ทุกคนก็ช่วยกัน เนื้อมันก็น้อย ๆ แค่นั้น ร้องให้มัน ๆ เข้าไว้ (หัวเราะ) ถ้าไปจริงจังกว่านั้น ก็เดี๋ยวสอน เราไม่ได้อยากสอน อยากปลดปล่อย ให้รู้สึกถึงความมัน แล้วก็เล่นสดให้ดี

เดี๋ยวมีซิงเกิลอะไรออกมาอีกมั้ยคะ

ฝน: เลือกยากมากเลย

ปิง: ตอนนี้ก็มี MV ไอ้หนุ่มรถไถ

กอล์ฟ: มีคุณเคนโด้ (Skipit) มาช่วยถ่าย MV

ฝน: อันล่าสุดไม่รู้ว่าเราควรมัน ตะลุยด่านต่อไป หรืออัลเตอร์ฯ สวย ๆ

กอล์ฟ: วันนี้ที่สัมภาษณ์ อัลบั้มเพิ่งทำ วันนี้แมสเซนเจอร์เพิ่งไปหาตัวแผ่นเลยครับ เราเลยจะดูฟีดแบคจากแฟนเพลงก่อน ว่าชอบเพลงไหนกัน

เดี๋ยวจะขายเป็นที่แรกที่งาน Cat Expo ใช่มั้ยคะ มีอย่างอื่นนอกจากอัลบั้มมั้ยคะ

ปิง: เสื้อยืด Starfish ปีลึกครับ

กอล์ฟ: โลโก้วงออกแบบโดยคุณเต๋า The Yers แกเป็นกราฟฟิคดีไซน์ ไปขอร้องแกมา ออกมาก็ใช่เลย ตรงยุค ตรงรุ่น ก็จะมีเสื้อรูปนั้น จริง ๆ ขายตั้งแต่ Cat T-shirt แล้ว ใจผมเองอยากทำเสื้อไอ้หนุ่มรถไถ แต่ขอดูเรทติ้งก่อน แล้วก็อยากทำเสื้อเวิลด์ทัวร์ด้วย สนุกดี

แล้วเดี๋ยวมีแผ่นขายทางอื่นอีกมั้ยคะ

ฝน: ทางเพจ Starfish ค่ะ

กอล์ฟ: แล้วก็อาจจะมีฝากขายร้านที่ตรงกลุ่ม เช่นร้านน้องท่าพระจันทร์ครับ

ผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามอ่านมาถึงตรงนี้ ก็คงได้เข้าใจตัววง Starfish มากขึ้น ทั้งความสดใหม่ที่วงต้องการจะสื่อและความรักในดนตรีของพวกเขา การสัมภาษณ์ครั้งนี้เป็นการคุยกับวงที่สนุกมาก ๆ การได้คุยกับวงที่เข้าใจดนตรีลึกซึ้งในระดับนี้ก็ช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้เราได้เยอะมาก ทุกท่านสามารถ ติดตามวงร็อกหน้าใหม่ Starfish ได้ที่งาน Cat Expo 3D วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ เวที D3 พร้อมกับสามารถซื้ออัลบั้มแรก Burokuta (หรือ Kurobuta?) ได้เป็นที่แรกที่งานเลยค่ะ อย่าลืมอุดหนุนและสนับสนุนศิลปินไทย ให้ได้ผลิตงานดี ๆ กันออกมาเรื่อย ๆ นะคะ ถ้าเดินเจอกันที่งานก็สามารถทักทายกันได้ค่ะ ไว้พบกันใหม่เมื่อมีโอกาส สวัสดีค่ะ

เรื่อง: มาลัยวีณ์ แสวงผล
ภาพ: ปณาลี พัฒนพิชัย
สถานที่: อมอร์ สตูดิโอ (aMORE Studio)