วันที่ 8 มีนาคมที่จะถึงนี้มีคอนเสิร์ตวงเดธคอร์สุดเดือดจากสหรัฐอเมริกามาเล่นที่กรุงเทพฯ ในงานเดียวกันถึงสองวงด้วยกัน นั่นคืออัพออน อะ เบิร์นนิ่ง บอดี้ (Upon a Burning Body) และซุยไซด์ ไซเลนซ์ (Suicide Silence) ซึ่งสำหรับวงหลังนี่แฟนเพลงทั้งพันธุ์แท้และไม่แท้รู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วทั้งในเรื่องของฝีมือและชื่อเสียง วันนี้จะพามาทำความรู้จักกับอัพออน อะ เบิร์นนิ่ง บอดี้ วงดนตรีเดธคอร์จากแดนใต้ ซาน อันโตนิโอ รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา
*หมายเหตุ: ข้อมูลทั้งหมดรวบรวมจากเว็บไซต์ค่ายเพลงที่วงสังกัดอยู่, เฟซบุ๊กของวง และวิกิพีเดีย ซึ่งถ้าพูดถึงความคลาดเคลื่อนของข้อมูลแล้ว วิกิพีเดียมีความน่าเชื่อถือน้อยที่สุดเพราะบุคคลทั่วไปสามารถเข้าไปแก้ไขข้อมูลเมื่อไหร่ก็ได้ หากผิดพลาดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
อัพออน อะ เบิร์นนิ่ง บอดี้เป็นวงดนตรีแนวเดธคอร์ที่มาพร้อมกลิ่นอายแบบอเมริกาใต้ ชุดสูท โลโก้วัวกระทิง และมิวสิควิดีโอแบบมาเฟีย
ก่อตั้งวงขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2005 มีสมาชิกในยุคก่อตั้ง 5 คน ประกอบไปด้วยแดนนี่ ลีล นักร้องนำ, รูเบน อัลวาเรซ มือเบส, ซาล โดมิงเกซ มือกีตาร์, ฮวน ฮิโนโฮซา มือกลอง และคริส “ซีเจ” จอห์นสันในตำแหน่งมือกีตาร์อีกคน ในตอนเริ่มแรกพวกเขาออกอัลบั้มอีพีชื่อว่า Genocide แบบไร้สังกัด มีจำนวนทั้งสิ้น 7 เพลง (จริง ๆ ก็แค่ 5 เพราะมี Intro/Outro ด้วย) และหลังจากนั้นพวกเขาก็ตระเวนเล่นดนตรีกันไปเรื่อย ๆ มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกวงเล็กน้อยเมื่อฮวน ฮิโนฮาซา มือกลองได้ลาออกจากวงไปและเสริมเข้ามาแทนด้วยมือกลองคนใหม่ชื่อว่ารามอน บียาร์รีล
ในที่สุดพวกเขาก็ได้เป็นวงรับเชิญในการทัวร์ที่มีชื่อว่า Thrash and Burn ที่เท็กซัสในปี ค.ศ. 2009 ร่วมกับวงอย่างเดวิลไดรฟ์เวอร์ (DevilDriver), เอ็มมัวร์ (Emmure), เดสไพส์ด ไอคอน (Despised Icon) และวีล ออฟ มายา (Veil of Maya) เป็นต้น
หลังจากนั้นถัดมาอีก 1 ปี ในปี ค.ศ. 2010 ทางวงก็ได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงชื่อว่าสุเมเรียน เรคคอร์ดส์ (Sumerian Records) และออกอัลบั้มเต็มชุดแรกชื่อว่า “This World is Ours” งานชุดนี้โปรดิวซ์โดยวิลเลียม พุตนีย์ โปรดิวเซอร์ที่เคยทำอัลบั้มให้กับวงฟอร์ ทูเดย์ (For Today) วงคริสเตียนเมทัลคอร์ชื่อดังจากไอโอวา จุดเด่นของอัลบั้มนี้คือชื่อเพลงทั้งหมดเป็นชื่อเดียวกับภาพยนตร์ที่อัล ปาชิโนเคยแสดงไว้ เช่น Showtime, Donnie Brasco, Righteous Kill ฯลฯ และมีมิวสิควิดีโอออกมาสองเพลง นั่นคือ Carlito’s Way และ Intermission
อัลบั้มนี้ได้คะแนนรีวิวจากเว็บไซต์ AbsolutePunk.net ไปถึง 85% เลยทีเดียว แถมยังเคยขึ้นไปแตะสูงสุดที่อันดับ 28 ของชาร์ตเพลง US Heatseekers อีกด้วย
แทร็กลิสต์ของอัลบั้ม This World is Ours:
1. Showtime
2. Carlito’s Way
3. Donnie Brasco
4. Righteous Kill
5. Scarface
6. Intermission
7. Heat
8. Any Given Sunday
9. The Devil’s Advocate
10. City Hall
จุดเด่นบนเวทีในการแสดงของ UABB นอกจากบรรยากาศของเพลงที่ได้กลิ่นอายแบบเซาเทิร์นแล้ว พวกเขายังเลือกที่จะแต่งตัวด้วยชุดสูทสไตล์มาเฟียแดนใต้ ไม่ใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าสนีกเกอร์เหมือนที่วงเมทัลคอร์, เดธคอร์ทั่วไปในยมใส่กัน เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของเพลง, เนื้อเพลง และถิ่นที่อยู่ที่พวกเขาอยู่กันมา
ผู้ก่อตั้งค่ายเพลงสุเมเรียนอย่างแอช อวิดเซน เคยพูดถึงเสียงร้องของแดนนี่ ลีล นักร้องนำของวงไว้ว่า:
“เสียงของแดนนี่ ลีล นักร้องนำวงอัพออน อะ เบิร์นนิ่ง บอดี้คือเสียงที่แตกต่างอย่างชัดเจนและฟังรู้เรื่องที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมาในปีนี้ บวกกับซาวด์แทร็ก, ริฟฟ์กีตาร์และจังหวะดนตรีของวงช่วยหนุนให้เขาระเบิดความมันของโชว์ได้มาก ไม่ต้องสงสัยว่าพวกเขาจะมีอนาคตที่ไกลแค่ไหน”
หลังจากนั้นพวกเขาก็ออกทัวร์กันอีกเป็นปี ๆ จนกระทั่งในเดือนมีนาคมปี ค.ศ. 2012 พวกเขาก็เข็นสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 2 ออกมาในชื่อแปลก ๆ ว่า “Red. White. Green.” (สีของธงชาติอิตาลี) และยังคงคอนเซ็ปต์ในการตั้งชื่อเพลงด้วยชื่อภาพยนตร์อีกเช่นเดิม ครั้งนี้พวกเขาเลือกชื่อจากภาพยนตร์ที่โรเบิร์ต โรดริเกซเป็นคนกำกับไว้ และมีการเปลี่ยนตัวสมาชิกภายในวงอีกนิดหน่อยโดยได้โจนาธาน กอนซาเลซมารับตำแหน่งมือกลองแทนบียาร์รีล อัลบั้มนี้มีหลายซิงเกิลถูกหยิบมาทำมิวสิควิดีโอ เช่น Once Upon A Time in Mexico, Sin City (บันทึกการแสดงสดจากโชว์ของวงที่เมืองสตุดการ์ด ประเทศเยอรมนี), Texas Blood Money รวมถึงมีวิดีโอเนื้อเพลงด้วยกับเพลง Mimic อัลบั้มนี้ยังคงใช้บริการโปรดิวเซอร์คนเดิม วิลเลียม พุตนีย์
อัลบั้มนี้ได้คะแนนรีวิวจากหลายสำนักไม่ค่อยดีเท่าที่ควร About.com ให้ 3/5, AllMusic ให้ 3/5, Alternative Press ให้ 3.5/5 แต่ก็ได้คะแนนจาก Under the Gun Review ไปถึง 8/10 เลยทีเดียว อัลบั้มนี้เปิดตัวอันดับที่ 1 ในชาร์ตที่พวกเขาเคยทำได้เพียงอันดับที่ 28 อย่าง US Heatseekers แถมยังขึ้นไปแตะอันดับที่ 105 ของ US Billboard Chart มาแล้วด้วย นับว่าประสบความสำเร็จในระดับมากพอสมควรสำหรับวงดนตรีที่ไม่ใช่แนวเมนสตรีมแบบนี้
แทร็กลิสต์ของอัลบั้ม Red. White. Green.
1. Game Over
2. Sin City
3. Once Upon a Time in Mexico
4. Texas Blood Money
5. El Mariachi (Instrumental)
6. Desperado
7. Mimic (featuring Chris Fronzak of Attila)
8. Predators (featuring Johnny Plague of Winds of Plague
9. From Dusk Till Dawn (featuring Nate Johnson of Fit for an Autopsy)
10. Planet Terror
11. The Island of Lost Dreams
อัลบั้ม Red. White. Green. เป็นอัลบั้มสุดท้ายที่มือกีตาร์อย่างซีเจได้ร่วมงานกับวงก่อนจะออกจากวงไปเมื่อปี ค.ศ. 2013 ที่ผ่านมา และก็ได้มีการปรับเปลี่ยนรูเบน อัลวาเรซ มือเบสของวงมาเล่นกีตาร์แทน แล้วก็รับมือเบสคนใหม่ชื่อว่าเรย์ มาร์ติเนซมาเสริมทัพใน ในปีที่ผ่านมาก็มีการเปลี่ยนมือกลองอีกครั้ง โดยได้รามอน บียาร์รีล มือกลองที่เคยร่วมงานกันตอนทำอัลบั้มแรกกลับมาร่วมวงกันอีกครั้ง นับเป็นไลน์อัพล่าสุดของวงอัพออน อะ เบิร์นนิ่ง บอดี้ ณ ปัจจุบันนี้
ทางวงไม่ได้ผ่านแค่การทัวร์คอนเสิร์ตอย่างหนักทั่วอเมริกาเท่านั้น พวกเขายังเคยผ่านการขึ้นแสดงบนเวทีของเทศกาลดนตรีใหญ่ ๆ อย่าง Rockstar Energy Mayhem Festival ในปี ค.ศ. 2013 และ Vans Warped Tour ในปี 2013 ที่ผ่านมามาแล้วด้วย
และเตรียมพบกับการแสดงสดของพวกเขาที่กรุงเทพฯ แบบเต็ม ๆ ตาได้ที่งาน Suicide Silence & Upon a Burning Body Live in Bangkok วันเสาร์ที่ 8 มีนาคมนี้ ที่ Live House Bangkok ตลาดนัดจตุจักรกรีน รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่เฟซบุ๊กเพจของ Extreme Unity Entertainment ผู้จัดงาน
ตอนต่อไปพบกับการเจาะลึกผ่าละเอียดเกี่ยวกับวงซุยไซด์ ไซเลนซ์โดยแฟนคลับมิตช์ ลักเกอร์หมายเลข 1 ของบล็อกเรา; Jeddy Tragedy ครับ
แล้วพบกันครับ

ผู้ร่วมก่อตั้ง และอดีต บก. Headbangkok.com