วงร็อกชาวอเมริกันรุ่นใหญ่ระดับตำนาน  “The Killers” ได้ปล่อยอัลบั้มใหม่ “Pressure Machine” ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ 7 ของพวกเขา โดยในอัลบั้มนี้ 3 หนุ่มรุ่นใหญ่ “The Killers” ได้ร่วมทำกับ “Shawn Everett” และ “Jonathan Rado” อีกเช่นเคย หลังจากที่พวกเขาได้ร่วมทำอัลบั้ม “Imploding The Mirage” ไปด้วยกันเมื่อปีที่ผ่านมา หลังจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้การทัวร์คอนเสิร์ตของอัลบั้ม “Imploding the Mirage” ต้องหยุดไป 

ซึ่ง “Brandon Flowers” กล่าวว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเผชิญกับความเงียบ และในความเงียบนั้นทำให้เพลงใหม่ได้เกิดขึ้น

เพลงที่อาจจะเคยโดนกลบด้วยเพลงทั่วไปของ The Killers”  และนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2547 ที่ความกดดันของ “The Killers” ที่มีในวงการดนตรีได้หยุดลง จึงทำให้เกิด “Pressure Machine” อัลบั้มที่พูดถึงความเป็นจริงในชีวิตประจำวันของเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในอเมริกาที่มีทั้งความหยาบกร้าน และความสวยงาม “Pressure Machine” เป็นอัลบั้มที่เรียกว่าแตกต่างจากอัลบั้มก่อนๆ แรงบันดาลใจหลักคือบ้านเกิดที่ “Brandon Flowers” ได้เติมโตขึ้นมาในเมือง Nephi รัฐ Utah เมืองในชนบทที่ไม่มีทั้งสัญญาณไฟจราจร มีแต่โรงงานยาง ทุ่งข้าวสาลี และเวสต์ฮิลส์  ซึ่งเป็นเมืองที่ “Brandon Flowers” ได้ใช้ชีวิตวัยแรกรุ่นของเขา 

ซึ่งเพลงในอัลบั้ม “Pressure Machine” ล้วนมาจากความทรงจำ และเรื่องราวของผู้คนที่ทำให้เขาโตขึ้นมา สลับกับคำอธิบายเกี่ยวกับเมืองของพวกเขาจากคนท้องถิ่น

ผมค้นพบความเศร้าที่ผมไม่เคยจะจัดการมันได้เลย”  “Flowers” กล่าว “ความทรงจำวัยเด็กของผมที่ Nephi มันละเอียดอ่อนมาก ก่อนหน้านี้ความกลัวและความเศร้าถูกกดทับเอาไว้ แต่ตอนนี้ผมเข้าใจความรู้สึกนี้มากขึ้นแล้ว และผมหวังว่าจะสามารถจัดการกับเรื่องราวเหล่านั้นได้”

และนับเป็นครั้งแรกของ “The Killers” ที่พวกเขาได้แต่งเนื้อเพลงจนครบก่อนที่จะทำทำนองเพลง ซึ่งอัลบั้ม “Pressure Machine” เป็นผลงานที่ “Flowers” ได้ใส่เอกลักษณ์ของเขาลงไปในทุกบทเพลง เรียกได้ว่าเป็นอัลบั้มที่สง่างามที่สุดที่ “The Killers” เคยมีมา

“Pressure Machine” เล่าถึงการต่อสู้ในชีวิตจริง ความเสียใจ และโศกนาฏกรรมในท้องถิ่นที่บ้านเกิดของ “Brandon Flowers”นอกจากนี้ “Brandon Flowers” ยังพูดถึงการตัดสินใจของผู้คนที่เลือกจะทำ ไม่ว่าจะส่งผลให้ดีขึ้นหรือไม่ดีก็ตาม สิ่งเหล่านี้คือเรื่องจริงที่ขึ้นสังคมที่เราไม่สามารถปฏิเสธได้