การเป็นศิลปินอาชีพนั้นแลกมาด้วยการเดินทางอย่างยากลำบาก และบางครั้งก็อันตราย ดังเช่นที่วง The Ghost Inside วงเมโลดิกฮาร์ดคอร์จากลอสแองเจลิสที่ประสบอุบัติเหตุเมื่อปลายปีที่แล้วนอกเมืองเอล พาโซ รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกาจนทำให้คนขับรถของทั้งฝ่ายวงและรถอีกคันที่ปะทะกันเสียชีวิตทั้งคู่ และสมาชิกทั้งหมดในวงเองก็บาดเจ็บอย่างหนักจนต้องพักฟื้่นในโรงพยาบาลเป็นเวลาหลายเดือน
ล่าสุดโจนาธาน วิจิล ฟรอนต์แมนของวงเผยถึงความรู้สึกล่าสุดที่เขามีต่อเหตุการณ์ครั้งนี้เอาไว้ผ่านอินสตาแกรมของตัวเองว่า “ผมฟื้นตัวมาได้ไกลมากตลอดระยะเวลาสี่เดือนครึ่งที่ผ่านมานับตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่บางครั้งผมก็รู้สึกผิดหวังกับการฟื้นฟูที่เกิดขึ้นเพราะผมต้องการจะให้มันหายได้เร็วมากกว่าที่มันกำลังเป็นอยู่ ผมไม่ขออะไรมากไปกว่าการที่พวกเราทั้งหมดจะไม่ต้องมาก้าวผ่านกับเรื่องนี้ และมันก็ทำให้หัวใจผมสลายเมื่อต้องรู้ว่าพวกเราบางคนจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป บางคืนผมนอนไม่หลับและมันก็ทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเอามาก ๆ สิ่งที่ผมจะต้องจำไว้ให้ขึ้นใจก็คือนอกจากเกร็ก คนขับรถของเราที่เสียชีวิตไปแล้ว พวกเราทุกคนยังอยู่กันตรงนี้ การได้เห็นรูปภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเรารู้กันดีว่าจริง ๆ แล้วเราอาจจะต้องเจออะไรที่แย่กว่าที่เป็นอยู่ก็เป็นได้ เรื่องราวที่ผมได้ฟังมาจากคนอื่นมันทำให้ผมหนาวไปถึงกระดูกเลย ผมคือคนที่ทั้งโชคดีและโชคไม่ดีคนหนึ่งที่สมองได้รับความกระทบกระเทือน เพราะงั้นผมก็เลยจำเหตุการ์ที่เกิดขึ้นตอนนั้นไม่ได้เลย และพูดกันตามตรงผมก็ชอบที่มันเป็นแบบนั้นนะครับ ผมเสียใจมากที่เหล่าพี่น้องของผมต้องผ่านเหตุการณ์นั้นมาทั้งหมดแบบเต็ม ๆ ผมไม่ได้เขียนโพสต์นี้ขึ้นมาเพื่อแสดงความไม่พอใจ ผมไม่ได้เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อบ่นและผมไม่ได้เขียนขึ้นมาเพื่อเรียกร้องความเห็นใจ ผมเขียนออกมาก็เพราะว่าผมอยากจะเขียน การเยียวยาที่ดีที่สุดของผมคือการเขียนบอกเล่ามันออกมา เพื่อที่จะช่วยให้ผมสามารถก้าวผ่านมันไปได้ เพื่อผลักดันสิ่งต่าง ๆ ให้มันออกมามีมิติ นี่คือสิ่งหนึ่งที่พวกเราจะต้องก้าวผ่านไปให้ได้ และผมสัญญาว่าสุดท้ายแล้วในตอนจบผมจะแข็งแกร่งขึ้น”
ถึงแม้ว่าอาการของวิจิลจะดีขึ้นมากแล้วแต่เขาก็ยังต้องรักษาการติดเชื้อที่กระดูกข้อเท้าให้หายเสียก่อนถึงจะสามารถเริ่มทำการผ่าตัดเพื่อรักษาร่างกายในส่วนอื่น ๆ ต่อไปได้ครับ แต่ข่าวดีก็คือ ทางวงยืนยันออกมาแล้วว่าจะกลับมาขึ้นแสดงกันอีกครั้งในเทศกาลดนตรี Warped Tour ปี 2017 อย่างแน่นอน ทางเราก็ขอเป็นกำลังใจให้อีกแรงครับ ขอให้หายวันหายคืนกลับมายืนปล่อยพลังกันบนเวทีได้อีกครั้ง แล้วพบกันที่หน้าเวทีสักวันหนึ่งครับ!
ที่มา – Loudwire

ผู้ร่วมก่อตั้ง และอดีต บก. Headbangkok.com