หมายเหตุ: หัวข้ออาจดูตกยุคไปนิดครับเพราะบทสัมภาษณ์มีมาตั้งแต่ก่อนวันคริสต์มาสปีที่แล้ว
การกลับมาของวงเมทัลขวัญใจวัยรุ่นทั่วโลก รวมถึงวัยรุ่นชาวไทย The Devil Wears Prada กับอัลบั้มล่าสุด “8:18” ในครั้งนี้ ได้มือกีตาร์หน้าลิง เกรียนเทพเมพขิงขิง Adam Dutkiewicz มานั่งแท่นเอ็กเซ็กคิวทีฟโปรดิวเซอร์ ช่วยปรุงแต่งอัลบั้มอีกครั้งหนึ่ง และการไปเยือนลอสแองเจลิสของวงครั้งนี้ ทำให้เกิดบทสัมภาษณ์พิเศษ ๆ แบบนี้ขึ้นมาให้แฟน ๆ ได้อ่านความคิดเห็นของนักร้องหนุ่มต่ออัลบั้มนี้อย่างหมดเปลือก อีกทั้งในวันหยุดช่วงคริสต์มาสนี้จะใช้เวลาทำอะไร เชิญท่านผู้อ่านที่เคารพอ่านได้เลยครับ
“โอเคครับไมค์ คุณพอจะทราบถึงกระแสตอบรับของแฟนๆ ที่มีต่ออัลบั้ม 8:18 บ้างไหม พวกเขาชื่นชอบกับสิ่งที่คุณพยายามจะนำเสนอทั้งในแง่ของภาคดนตรีและเนื้อร้องหรือเปล่า”
“ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ จริงๆแล้ว ด้วยความรู้สึกส่วนตัวของผมเอง มันค่อนข้างยากที่จะบอกว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมเคยอยากที่จะสร้างงานแบบดิบ ๆ ตรงไปตรงมา และเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก และคิดว่าคงมีคนจำนวนไม่น้อยที่จะหยิบเลือกไปเพราะชอบงานแบบนั้นจริง ๆ ต่อมาผมก็ต้องถามตัวเองว่า พวกเขาชอบงานแบบนั้นจริง ๆ เหรอ หรือพวกเขาชอบเพียงเพราะผมพูดถึงมัน ผมจะบอกว่าเวลาที่เราถ่ายคลิปวีดีโอระหว่างที่อยู่ในสตูดิโอมาลงให้ทุกคนดูเนี่ย มันอาจส่งผลกระทบต่อการฟังเพลงของหลาย ๆ คนก็ได้”
“มันก็สามารถเป็นไปได้ทั้งคู่นะ”
“ก็ใช่ คุณจะว่าอย่างนั้นก็ได้ อาจจะมีทั้งสองอย่างรวมกัน ในทางหนึ่งผมแค่คิดว่ามันจะช่วยให้คนฟังเข้าใจถึงสิ่งที่เรากำลังทำกับงานชิ้นใหม่นี้”
“แบบนี้อะไรๆ ก็มาลงที่คุณคนเดียว ในฐานะนักร้องนำซึ่งต้องคอยอธิบายเรื่องต่าง ๆ ให้กับทุกคนฟัง”
“ใช่เลย แต่ผมก็ไม่อะไรกับเรื่องนั้นหรอก จะบอกว่าผมมักจะโฟกัสที่วงและคนฟังที่มองว่ามันเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น เท่านั้นก็พอแล้ว เหมือนอย่างวง INTERPOL พวกเขาไม่ค่อยพูดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องดนตรีหรอก เขาแค่ทำมันออกมาให้เสร็จ ซึ่งผมยกย่องพวกเขาตรงจุดนี้มาตลอด แม้อาจจะเปรียบไม่ได้กับวงนี้ แต่ผมชอบจริง ๆ และคงจะเป็นการโกหกถ้าไม่บอกว่าผมพยายามที่จะประยุกต์ใช้กับพวกเรา ซึ่งก็นั่นแหละ ผมก็รู้สึกโอเคกับการอธิบายถึงสิ่งที่พวกเราทำ”
“อัลบั้ม 8:18 นี้ ดิบกร้านและหนักหน่วงอย่างเห็นได้ชัดเลย มันสะท้อนถึงความจริงหลาย ๆ อย่างในชีวิตทุกวันนี้หรือเปล่า”
“ผมว่าทุกครั้งที่เราทำงานใหม่ มันมักจะสะท้อนถึงตัวเราเสมอ ว่าเราอยู่ตรงจุดไหนในชีวิต ผมหมายถึงว่า พวกเรากำลังเติบโตขึ้นไปอีก CHRIS และ JEREMY ต่างก็แต่งงานแล้วทั้งคู่ และ CHRIS เองก็มีลูกแล้วด้วย ถ้าคุณจะสร้างงานเพลงที่จริงจัง อย่างน้อยงานนั้นมันต้องสะท้อนอะไรสักอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตคุณบ้าง ไม่ว่าคุณจะสร้างงานขายหรืองานศิลปะ ถ้าคุณไม่ใส่ใจใส่ชีวิตคุณลงไปด้วย มันก็จะกลายเป็นแค่งานขายทั่วไป ซึ่งนั่นก็โอเคไม่เป็นไร แต่ไม่ใช่พวกเรา”
“เรามีสิ่งที่อยากและไม่อยากจะบอก เพลงของเราจะสะท้อนตัวเราออกมา ไม่ใช่เพียงแค่กระบวนการทำงานของเรา แต่ยังรวมไปถึงด้านเนื้อหาคำร้องของงานเราด้วย ผมยังคงต้องการจะทำในสิ่งที่ผมอยากจะทำ ซึ่งมันจะผลักดันไปสู่ทิศทางใหม่ งานก่อนหน้านี้พูดถึงความลุ่มหลงในความรักและความงมงาย คราวนี้ ผมลงลึกไปยิ่งกว่าเดิม ให้มันลุ่มลึกขึ้น และนั่นคือการเติบโต”
“คุณจะพูดอะไรเกี่ยวกับความศรัทธาของคุณ รวมถึงความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ หลังจากเข้ามาร่วมวงสักหน่อยไหม”
“ความศรัทธาและการพยายามปรับเปลี่ยนเกิดขึ้นกับตัวผมตลอดเวลา การใช้ชีวิตอยู่บนถนน การเดินทาง มันส่งผลกระทบต่อตัวผมไม่น้อยเลยทีเดียว ผมห่างหายจากสังคมที่โบสถ์ไปเรื่อยๆ ขณะเดินทาง ซึ่งผมให้ความสำคัญต่อกิจกรรมที่โบสถ์อย่างมาก การที่ไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมที่โบสถ์เลยนั่นก็คือการพยายามปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตครั้งยิ่งใหญ่สำหรับตัวผมเอง”
“ได้ข่าวว่าทางวงจะได้หยุดพักก่อนช่วงคริสต์มาส ตัวคุณเองจะทำอะไรในวันหยุดนี้ถ้าได้กลับบ้านที่ชิคาโก้”
“ผมอยากจะบอกว่าผมค้นพบการฉลองคริสต์มาสแบบใหม่ด้วยตัวเองแล้วล่ะ แต่บอกก่อนว่ามันคงไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไรมากนักสำหรับใครก็ตามที่รู้จักผมอยู่แล้ว (ฮา) อย่างแรกที่ผมจะทำตอนคริสต์มาสอีฟก็คือออกไปหาซื้อของ คุณรู้อะไรไหม ผมเนี่ยตัวจริงเรื่องปิ้งย่างในการทำอาหารฉลองคริสต์มาสเลยนะ โอเค หลังจากกลับจากช้อปปิ้ง ผมก็จะทำอาหารมังสวิรัติจานเด็ดเพื่อฉลองกับตัวเอง อิ่มแล้วก็ออกไปที่บาร์แถวบ้าน หาอะไรดื่มนิดหน่อยแล้วก็กลับบ้าน แค่นี้ล่ะวันหยุดของผม”
“แต่พูดไปแล้ว ผมก็ไม่ชอบเท่าไรหรอก ผมว่าสิ่งที่เราทำ ๆ กันที่นี่ ในประเทศนี้ คือการทำให้ความหมายของเทศกาลนี้มันขยายวงกว้างออกไปเรื่อย ๆ เยอะแยะวุ่นวาย จนบางทีอาจลืมไปแล้วว่าแต่แรกนั้นจุดประสงค์ของเทศกาลนี้คืออะไร ซึ่งตัวผมเองจะทำให้มันเรียบง่ายต่อไป ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าตอนนั้นจะมีหิมะตกลงมา และถ้าเพื่อนคนไหนที่ไม่ได้หนีจากชิคาโก้ไปเที่ยวที่อื่น พวกเขาก็สามารถมาร่วมโต๊ะกับผมที่บาร์ได้”
ที่มา – Loudwire

LAMNIDAE is the shark