“Seize The Day” บทเพลงบัลลาดสุดเพราะของวง Avenged Sevenfold ผลงานจากอัลบั้ม “City of Evil” ถูกปล่อยให้ฟังครั้งแรกในวันที่ 11 กรกฎาคม ปี 2006 เป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับ A7X เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ด้วยสไตล์บัลลาดเฮฟวี่ เมทัล ที่โดดเด่นด้วยท่วงทำนองที่งดงามบนความเศร้าหมอง ดนตรีถูกขับเคลื่อนด้วยซาวด์ของกีตาร์อะคูสติค, เสียงเปียโน, ซาวด์กีตาร์และเสียงร้องที่เต็มไปด้วยอารมณ์ รวมไปถึงลูกโซโล่กีตาร์ที่บาดลึกแบบสุด ๆ
นอกจากนั้นตัว MV ยังสะท้อนอารมณ์ของคู่รักช่วงวัยรุ่นที่ทำอะไรขาดการยั้งคิดยั้งทำ แต่ที่ทุกคนจดจำได้ดีที่สุดคงไม่พ้นฉากโซโล่กีตาร์บนโลกศพของ Synyster Gates ที่เท่แบบสุด ๆ หยุดกรี๊ดกันไม่ได้จริง ๆ ส่วนเรฟเฟอเรนซ์ที่ทางวงได้มามันมาจาก MV เพลง “November Rain” ของวง Guns N’ Roses นั่นเอง ซึ่งทางวงได้ Wayne Isham ผู้เคยร่วมงานกับ Bon Jovi, Motley Crue, Pink Floyd และ Ozzy Osbourne มารับหน้าที่ผู้กำกับ และความร้อนแรงของ MV นี้ส่งผลให้ได้รับรางวัล Golden Gods Award ในปี 2007 มาครองได้อีกด้วย
ส่วนเนื้อหาของเพลงสามารถถอดความหมายได้ดังต่อไปนี้
“Seize the day or die
Regretting the time you lost
It’s empty and cold without you here
Too many people to ache over”
ทำวันนี้ให้ดีที่สุดหรือจะตาย
ไปพร้อมกับความเสียใจที่ต้องสูญเสียเวลาไป
มันช่างว่างเปล่าและเหน็บหนาวที่ไม่มีเธอยู่ตรงนี้
มันเป็นที่มีผู้คนมากมายคอยแต่มาสร้างความเจ็บปวด
“I see my vision burn
I feel my memories fade with time
But I’m too young to worry
These streets we travel on
Will undergo our same lost past”
ภาพที่ฉันเห็นกำลังถูกแผดเผาจนหายไป
ฉันรู้สึกว่าความทรงจำมันกำลังค่อย ๆ ลบเลือนไปตามกาลเวลา
แต่ฉันยังเด็กเกินไปที่จะกังวลถึงมัน
บนถนนที่เราร่วมเดินกันไป
จะต้องผ่านอดีตของพวกเราที่ได้สูญเสียมันไป
“I found you here
Now please just stay for a while
I can move on with you around
I hand you my mortal life
But will it be forever?”
ฉันได้พบเธออยู่ตรงนี้แล้ว
ได้โปรดอยู่ด้วยกันตอนนี้อีกซัดนิดได้ไหม
ฉันสามารถเดินหน้าต่อไปได้ถ้ามีคุณอยู่ใกล้ ๆ กัน
ฉันจะมอบชีวีตทั้งหมดให้กับเธอ
แล้วมันจะคงอยู่ต่อไปตลอดกาลใช่ไหม?
“I’d do anything for a smile
Holding you ’til our time is done
We both know the day will come
But I don’t want to leave you”
ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อรอยยิ้มของเธอ
จะกอดเธอไว้จนกระทั่งถึงเวลา
พวกเราต่างรู้ดีว่าวันนั้นมันจะมาถึง
แต่ฉันไม่ได้ต้องการจะจากเธอไปไหนเลย
“I see my vision burn
I feel my memories fade with time
But I’m too young to worry
A melody, a memory
Or just one picture”
ภาพที่ฉันเห็นกำลังถูกแผดเผาจนหายไป
ฉันรู้สึกว่าความทรงจำมันกำลังค่อย ๆ ลบเลือนไปตามกาลเวลา
แต่ฉันยังเด็กเกินไปที่จะกังวลถึงมัน
ไม่ว่าจะเป็นเมโลดี้ของดนตรี, ความทรงจำ
หรือเพียงแค่ภาพ ๆ หนึ่ง
“Seize the day or die
Regretting the time you lost
It’s empty and cold without you here
Too many people to ache over”
ทำวันนี้ให้ดีที่สุดหรือจะตาย
ไปพร้อมกับความเสียใจที่ต้องสูญเสียเวลาไป
มันช่างว่างเปล่าและเหน็บหนาวที่ไม่มีเธอยู่ตรงนี้
มันเป็นที่มีผู้คนมากมายคอยแต่มาสร้างความเจ็บปวด
“Newborn life replacing all of us
Changing this fable we live in
No longer needed here
So where do we go?”
ชีวิตใหม่กำลังเข้ามาแทนที่พวกเราทั้ง 2 คน
เข้ามาเปลี่ยนเรื่องราวที่เราได้ดำเนินกันอยู่
ไม่มีที่ใดต้องการเราอีกแล้ว
แล้วเราจะไปไหนต่อกันดี?
“Will you take a journey tonight
Follow me past the walls of death?
But girl, what if
There is no eternal life?”
หรือจะพาเธอออกเดินทางไปในค่ำคืนนี้
ด้วยการเดิมตามฉันมาเพื่อก้าวข้ามกำแพงแห่งความตาย?
แต่ที่รัก, มันจะเกิดอะไรขึ้น
ถ้าชีวิตของพวกเราไม่ได้เป็มอมตะหล่ะ?
“I see my vision burn
I feel my memories fade with time
But I’m too young to worry
A melody, a memory
Or just one picture”
ภาพที่ฉันเห็นกำลังถูกแผดเผาจนหายไป
ฉันรู้สึกว่าความทรงจำมันกำลังค่อย ๆ ลบเลือนไปตามกาลเวลา
แต่ฉันยังเด็กเกินไปที่จะกังวลถึงมัน
ไม่ว่าจะเป็นเมโลดี้ของดนตรี, ความทรงจำ
หรือเพียงแค่ภาพ ๆ หนึ่ง
“Seize the day or die
Regretting the time you lost
It’s empty and cold without you here
Too many people to ache over”
ทำวันนี้ให้ดีที่สุดหรือจะตาย
ไปพร้อมกับความเสียใจที่ต้องสูญเสียเวลาไป
มันช่างว่างเปล่าและเหน็บหนาวที่ไม่มีเธอยู่ตรงนี้
มันเป็นที่มีผู้คนมากมายคอยแต่มาสร้างความเจ็บปวด
“Trials in life, questions of us existing here
Don’t wanna die alone
Without you here, please tell me
What we have is real”
บททดสอบของชีวิต, คำถามของการมีชีวิตของเรามีอยู่ตรงนี้แล้ว
ฉันไม่อยากตายไปอย่างเดียวดาย
โดยที่ไม่มีเธอ ได้โปรดบอกฉันที
ว่ารักของเรามีจริงใช่ไหม
“So, what if I never hold you, yeah
Or kiss your lips again?
So I never want to leave you
And the memories of us to see
I beg don’t leave me”
แล้วถ้าฉันจะไม่ได้กอดเธออีกแล้ว
หรือไม่ได้จูบที่ริมฝีปากเธออีกครั้งหล่ะ?
คือฉันไม่ได้ต้องการจากคุณไปไหน
และไม่ได้ต้องการมีเพียงความทรงจำไว้ดูต่างหน้า
ได้โปรดขอร้องอย่าทิ้งฉันไปไหนเลย
“Seize the day or die
Regretting the time you lost
It’s empty and cold without you here
Too many people to ache over”
ทำวันนี้ให้ดีที่สุดหรือจะตาย
ไปพร้อมกับความเสียใจที่ต้องสูญเสียเวลาไป
มันช่างว่างเปล่าและเหน็บหนาวที่ไม่มีเธอยู่ตรงนี้
มันเป็นที่มีผู้คนมากมายคอยแต่มาสร้างความเจ็บปวด
“Trials in life, questions of us existing here
Don’t wanna die alone
Without you here, please tell me
What we have is real”
บททดสอบของชีวิต, คำถามของการมีชีวิตของเรามีอยู่ตรงนี้แล้ว
ฉันไม่อยากตายไปอย่างเดียวดาย
โดยที่ไม่มีเธอ ได้โปรดบอกฉันที
ว่ารักของเรามีจริงใช่ไหม
“Silence, you lost me
No chance for one more day
Silence, you lost me
No chance for one more day” (X3)
ความเงียบงันเข้ามาครอบคลุม, เธอได้ทิ้งฉันไป
ไม่มีโอกาสได้พบกันอีกแล้วแม้แต่วันเดียว
แม้ว่าเพลงนี้จะผ่านกาลเวลามานานกว่า 16 ปีแล้ว แต่เมื่อไหร่ที่ได้ฟังมันก็ยังคงขุดความทรงจำของเราที่ฝังไว้ในช่วงนั้นขึ้นมาได้เป็นอย่างดีเลยครับ

Owner, Co-Founder and Writer of Headbangkok
Vocalist : Tragedy of Murder