การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเคยเจอกันเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ไม่ต่างจากวงดนตรีที่เมื่อกาลเวลาผ่านไปก็มักจะมีเรื่องราวให้ต้องเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน หนึ่งในวงเหล่านั้นคือ Sepultura วงเมทัลจากประเทศบราซิลที่เคยมีจุดหักเหครั้งสำคัญจนทำให้ประวัติศาสตร์ของวงเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล

Sepultura เดิมทีพวกเขานำเสนอผลงานในสไตล์เดธ/แธรช เมทัล แถมมีกลิ่นอายของแบล็กเมทัล โดยเฉพาะในอัลบั้มแรก Morbid Visions (1986) ที่ดนตรีเต็มไปด้วยความดิบเถื่อน ชั่วร้าย คุมธีมด้วยความเป็นซาตานิก ตามมาด้วยอัลบั้ม Schizophrenia (1987) ซึ่งทางวงได้ตัว Andreas Kisser มารับหน้าที่มือกีตาร์แทน Jairo Guedz

หลังจากนั้น Sepultura ก็มีผลงานต่อเนื่องด้วยอีก 3 อัลบั้มได้แก่ Beneath the Remains (1989), Arise (1991) และ Chaos A.D. (1993) ซึ่งเป็นยุคที่ชื่อเสียงของวงพุ่งกราฟสูงอย่างสุดขีด ส่วนหนึ่งก็ต้องยกเครดิตให้กับค่าย Roadrunner Records ที่ขยับภาคโปรดัคชั่นและการตลาดของวงจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่หากใครสังเกตให้ดี ๆ ดนตรีของพวกเขาเริ่มจะค่อย ๆ มีการปรับทิศทางทีละเล็กทีละน้อยเพื่อให้ดนตรีของพวกเขาฟังง่ายกว่าเดิม เสียงร้องก็ดูจะมีเมโลดี้มกาขึ้น รวมไปถึงเนื้อหาที่ไม่ได้เล่าถึงความเป็นซาตานิกอีกต่อไป สิ่งเหล่านี้ทำให้ Sepultura ก้าวขึ้นมาเป็นวงเมทัลระดับโลกได้อย่างไรข้อกังขา

อย่างไรก็ตามวง Sepultura ก็เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยครั้งสำคัญในปี 1996 พวกเขาคลอดอัลบั้ม “Roots” ออกมาลืมตาดูโลกท่ามกลางกระแสดนตรีนูเมทัลที่กำลังถาโถมเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย สิ่งที่แฟนเพลงคาดหวังว่าจะได้ยินในอัลบั้มนี้คงไม่ต่างจากอัลบั้ม “Chaos A.D.” อย่างแน่นอน แต่แล้วแฟนเพลงก็ต้องเจอเซอร์ไพรส์ไปจัง ๆ

Sepultura ส่งเพลง “Root Bloody Roots” ออกมาเป็นซิงเกิ้ลแรกเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 1996 มันมาพร้อมกับซาวด์กีตาร์จูนสายต่ำ จังหวะกรูฟหน่วง ๆ ชวนโยกชวนโดดตาม ริฟฟ์กีตาร์ที่เล่นวนไปมาเพียงไม่กี่ริฟฟ์ แต่งเติมสีสันด้วยดนตรีพื้นบ้านของบราซิล ใช่แล้วสิ่งที่คุณได้ยินคือดนตรี “นูเมทัล” พวกเขาได้กระโดดเข้าร่วมกระแสดนตรีสายหนักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สิ่งที่สะท้อนการเข้าสู่ความเป็นนูเมทัลไม่ใช่แค่ดนตรีเท่านั้น แต่ยังเป็นอิมเมจของวงที่สะท้อนออกมาจากเสื้อผ้าหน้าผมที่ปรากฎออกมาใน MV เราจะได้เห็น Max Cavarela ย้อมผมเป็นสีแดงและใส่เสื้อแบรนด์ Dickies ด้วยเช่นกัน

ในส่วนของเนื้อหาเพลงนี้ทาง Max Cavarela ได้เคยอธิบายไว้ว่า

“มันเกี่ยวกับความศรัทธาในตัวคุณเอง ความภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณีของชนชาติของคุณ ภูมิใจว่าตัวเองมาจากที่ไหน มันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังกับเนื้อเพลงที่เข้าใจง่าย ดังนั้นมันจึงเกี่ยวกับการฝังลงลึกสู่รากเหง้าของคุณเองและศรัทธาในรากเหง้าของคุณเองด้วย”

แม้ว่าแนวดนตรีจะทำให้ Sepultura ถูกแฟนเพลงดั้งเดิมเบนหน้าหนี แต่ในทางกลับกันพวกเขาก็ไปได้แฟนเพลงเด็กนูเมทัลเข้ามาเป็นสาวกอีกเป็นเข่ง สามารถแนบเนียนเข้าไปกับกระแสดนตรีนูเมทัลได้อย่างไม่เขอะเขิน และเพลง “Root Bloody Roots” ก็ยังส่งผลให้อัลบั้ม “Roots” ประสบความสำเร็จทางด้านยอดขายอย่างงดงงามด้วยเช่นกัน

ทุกอย่างเหมือนจะไปได้สวยกับอีกสเตปของวง Sepultura แต่แล้วอีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของทางวงก็เกิดขึ้น เมื่อ Max Cavarela ได้ตัดสินใจลาออกจากวงเนื่องจากสมาชิกวงมีมติต้องการไล่ Gloria Bujnowski ออกจากตำแหน่งผู้จัดการ ซึ่ง Gloria เป็นภรรยาของ Max ด้วยนั่นเอง ทำให้ Max ต้องตัดสินใจยุติบทบาทในนามวง Sepultura ลง ก่อนจะมาสร้างวงใหม่ในนาม Soulfly แทน

ถึงจะเกิดเรื่องราวความเปลี่ยนแปลงขึ้นมามากมาย แต่ปฎิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าเพลง “Root Bloody Roots” ได้กลายเป็นผลงานขึ้นหิ้งระดับอมตะตลอดกาลของวง Sepultura ไปเป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งยังได้สร้างอิทธิพให้กับวงเมทัลทั่วโลกมากมาย หนึ่งในนัั้นคือวง Ebola ที่เริ่มต้นเส้นทางดนตรีด้วยการคัฟเวอร์ผลงานเพลงนี้ด้วยเช่นกันครับ