“Papercut” บทเพลงเปิดอัลบั้ม Hybrid Theory ของวง Linkin Park และซิงเกิ้ลที่ 4 ที่ถูกนำมาโปรโมต เป็นอีกหนึ่งผลงานทรงคุณค่าแห่งยุคนูเมทัล ที่โดดเด่นมากในเรื่อของดนตรีที่ดูเรียบง่าย ไม่ได้มีเทคนิคหวือหวา แต่ทรงพลังด้วยการทำท่อนจำทั้งเมโลดี้และการวางเนื้อร้อง

เนื้อหาของเพลงนี้เป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยในบทเพลงของวง Linkin Park เป็นอย่างดี เพราะมันเป็นเครื่องมือในการระบายอารมณ์ของความโกรธเกรี้ยวผ่านเนื้อหาที่พูดถึงความเก็บกดที่ต้องซ่อนความอึดอัดไว้ภายในรอวันที่จะระเบิดออกมา อย่างเช่นตัวอย่างในท่อน

“Like a face that I hold inside
A face that awakes when I close my eyes
A face watches every time I lie
A face that laughs every time I fall”

“เหมือนกับใบหน้าที่เก็บซ่อนไว้ข้างใน

ใบหน้าที่ตื่นขึ้นมาตอนเมื่อกูหลับตา

ใบหน้าที่คอยมองจ้องทุก ๆ เวลาที่กูโกหก

ใบหน้าที่คอยหัวเราะทุก ๆ ครั้งที่กูพลาดพลั้ง”

แม้จะเป็นเพียงแค่ท่อนเวิร์สแต่มันก็บ่งบอกความหมาและความรู้สึกของเพลงได้อย่างหมดจด ซึ่งทาง Chester Bennington เคยบอกเอาไว้ด้วยว่าเพลง “Papercut” คือหนึ่งในเพลงที่เขาชอบมากที่สุดของ Linkin Park เลยทีเดียว

อีกสิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ คนประทับใจกับเพลงนี้นั่นก็คือ MV ที่ให้อารมณ์คล้ายกับภาพยนตร์สยองขวัญ สมาชิกไปโผล่อยู่ในบ้านหลังหนึ่งที่เต็มไปด้วยสิ่งแปลกประหลาดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้องข้าง ๆ ทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวาที่เต็มไปด้วยความมืดและความสกปรก แตกต่างจากห้องหลังที่เต็มไปด้วยแสงสว่างสะอาดตาราวกับโลกคนละโลก (อารมณ์เดียวกับ Upside Down ในซีรีส์ Stranger Things) โดยในห้องนั้นมันคือที่ฟักตัวของอสูรกายที่ค่อย ๆ เติบโตขึ้นมา รวมถึงมีแมงปอที่โบยบินออกมาเต็มไปทั่วห้อง ซึ่งภาพที่สื่อออกมามันก็ถูกตีความมาจากเนื้อเพลงนั่นเอง นอกจากนั้นทางวงยังได้ซ่อนรูปปกเดโม่ “Xero” ไว้ในกรอบรูปภาพด้วย ส่วน MV นี้กำกับโดย Joseph Hanh มือเทิร์นเทเบิ้ลของวงร่วมกับ Nathan “Karma” Cox

แม้ว่าการเวลาจะทำให้เพลงนี้อยู่มานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่ทุก ๆ ครั้งที่เมโลดี้ตัวแรกถูกบรรเลงขึ้นมันก็ยังคงทรงพลังในทุก ๆ ครั้งที่ได้ยินเสมอมา