เหตุการณ์ความบาดหมางระหว่างศิลปินมีให้ได้พบเห็นกันตลอด และอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สำคัญในยุคนู เมทัล คงต้องยกให้การปะทะกันระหว่าง Slipknot และวง Mushroomhead ซึ่งทั้ง 2 ศิลปินมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันมาก ไม่ว่าจะเป็นการปกปิดใบหน้า, ชุดที่สวมใส่ รวมไปถึงจำนวนสมาชิกที่ใกล้เคียงกัน และทาง Mushroomhead ยังคิดว่าวง Slipknot ไปลอกเลียนแบบคาแรคเตอร์ของพวกเขามา เนื่องจาก Mushroomhead ก่อตั้งวงในปี 1993 มาก่อนวง Slipknot เป็นเวลา 2 ปี
“จุดเริ่มต้นของความบาดหมาง“
ประเด็นที่จุดชนวนของความบาดหมางมันเริ่มต้นจากในปี 1998 เป็นช่วงเวลาที่ค่าย Roadrunner Records ได้ทำการเซ็นสัญญากับวง Slipknot ซึ่งจริง ๆ แล้วก่อนหน้าที่ทางค่ายต้องการเซ็นกับทาง Mushroomhead แต่ดีลก็ถูกล้มเลิกไป โดยเรื่องดังกล่าวถูกเปิดเผยจาก Jeff Hatrix อดีตฟรอนต์แมนของวงหัวเห็ด (บทสัมภาษณ์เกิดขึ้นในปี 2007 และ 2018 ซึ่งเป็นหลังจากเหตุการณ์ความบาดหมาง โดยคาดว่าจุดนี้น่าจะเป็นชนวนเหตุของเรื่องดังกล่าวนั่นเอง)
“ค่าย Roadrunner เคยจะเซ็นสัญญากับพวกเรา”
“ในตอนนั้นพวกเรามีโชว์ท้องถิ่นเป็นจำนวนมากซึ่งมากกว่าจำนวนโชว์ที่ทางค่ายเสนอซะอีก และพวกเขาก็ต้องการสินค้าทั้งหมดจากเรา ซึ่งมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเงินที่ดูไม่สมเหตุสมผลซักเท่าไหร่”
“แต่ค่าย Roadrunner ดันไปเอาวงเลียนแบบพวกเรามาเซ็นสัญญา ซึ่งทุก ๆ คนต่างก็รู้กันดีอยู่แล้ว”
ส่วน Steve “Skinny” Felton มือกลองของ Mushroomhead ก็รู้สึกเดือดกับเหตุการณ์ดังกล่าว และได้ออกมาโจมตีวง Slipknot เช่นกัน
“พวกมันได้รางวัลแพลตตินั่มด้วยการขายศักดิ์ศรี, เกียรติยศ และขาดความเคารพ”
จากความไม่พอใจของฝ่าย Mushroomhead มันได้ก่อให้เกิดเหตุโกลาหลขึ้นมา!
“เหตุการณ์ความรุนแรง ณ เมือง CLAVELAND”
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 11 กันยายน 1999 ณ เมือง Cleveland รัฐ Ohio ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นระหว่างทัวร์ “Livin’ La Vida Loco” ร่วมกับวง Coal Chamber, Machine Head และ Amen
ณ เวลานั้นวง Slipknot กำลังพีคอย่างสุดขีดจากผลงานอัลบั้มแรกที่ได้รับการตอบรับจากแฟนเพลงอย่างล้นหลาม แต่การมาเยือนเมือง Cleveland ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะที่นี่คือบ้านเกิดของวง Mushroomhead!
ความบาดหมางของทั้ง 2 วง มันได้ลุกลามไปถึงแฟนเพลงที่แบ่งพรรคแบ่งพวกอย่างชัดเจน ส่งผลให้คอนเสิร์ตในวันนั้นเกิดความวุ่นวายและความโกลาหล ทาง Corey Taylor ได้เล่าถึงเหตุการณ์วันนั้นให้ฟังว่า
“ผู้คนเขวี้ยงทุกอย่างขึ้นมาบนเวทียกเว้นก้อนหิน”
“มันมีกุญแจขนาดเท่ากำปั้นถูกเขวี้ยงขึ้นมาโดนหน้า Paul Gray ตอนที่พวกเราอยู่บนเวที”
“พอพวกเราเล่นคอนเสิร์ตเสร็จ พวกเราก็ถอดชุดออกแล้วกระโจนลงไปหาคนดูทันที”
“พวกมันอยู่กันเยอะมาก ส่วนพวกเรามีเพียงแค่ 9 คน แต่ก็มีเพื่อน ๆ ของเรารวมไปถึงวง Machine Head และ Amen ที่ลงมาช่วยพวกเราจัดการ”
ทาง Paul Gray ได้เสริมว่า
“ตอนที่พวกเราเล่นจบเพลงไหนซักเพลง ผมกับ Jim Root ถอดหน้ากากแล้วกระโดดลงจากเวที และเริ่มซัดใส่คนดู”
“หลังจากจบการปะทะกัน ก็มีทีมงานของเราคนหนึ่งถูกจับกุมโดยตำรวจไปด้วย”
หลังจากเหตุการณ์ที่เมือง Cleveland ผ่านไป ทาง Corey Taylor เชื่อว่าที่คนดูเดือดขนาดนี้มาจากการปลุกปั่นของวง Mushroomhead ซึ่งทาง Corey เองก็เดือดดาลไม่แพ้กัน จากให้สัมภาษณ์กับทาง Rock Sound เมื่อปี 2000
“ผมจะไปที่ Cleveland ผมจะไปกระฉากหน้ากากที่โง่ ๆ ของพวกมันออกมา แล้วจะจับพวกแม่งตีเข่าเข้าที่หน้าให้เลือดหมดตัวจนตายห่าไปเลย!”
“ผู้บงการความวุ่นวายคือวง MUSHROOMHEAD”
ทาง Jeff Hatrix ก็ไม่ปฏิเสธและยอมรับว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว
“ผมรู้จักทุกคนที่สร้างความวุ่นวายในคืนนั้น และผมก็เป็นคนเขียนป้าย ‘Cleaveland สนับสนุน Mushroomhead, ไล่ Slipknot กลับบ้านไป’ ด้วยตัวเอง แต่ตอนเกิดเหตุผมไม่ได้อยู่ที่นั่นนะและไม่รู้ด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เอ๊ะ แต่พวกมันเป็นผู้ชายใช่ป่ะ? ยินดีต้อนรับสู่ Cleveland เว้ยไอพวกเชี่ย!”
Jeff Hatrix ยังได้อ้างอีกว่า วง Slipknot และทีมงาน ก่อกวนแฟนสาวของตนที่ใส่เสื้อวง Mushroomhead บริเวณใกล้กับสถานที่จัดงานในวันเดียวกับเหตุการณ์ความรุนแรง
ยังไม่จบ Jeff ยังคงโจมตีวง Slipknot ต่อไปในโชว์ที่บ้านเกิดเมื่อปี 2005 ด้วยการแต่งตัวเลียนแบบวง Slipknot และจับทีมงานมายืนบนเวทีให้ครบ 9 คน พร้อมทั้งเปิดเสียงแซมเปิ้ลล้อเลียนเพลงเปิดอัลบั้มแรกของ Slipknot “742617000027” ว่า “The Whole Thing, I Think It’s Stolen”
ดูเหมือนว่าการปลุกปั่นจะสำเร็จอีกครั้ง เพราะแฟนเพลงต่างพร้อมใจกันตะโกนว่า “Fuck Slipknot!” โดยผู้ชมในวันนั้นได้เล่าให้ฟังว่า
“Waylon นักร้องนำได้ตะโกนบอกคนดูว่า เอาดิพวก! อย่าไปกลัวที่จะตะโกนมันออกมาซิวะ มันทำให้ทุก ๆ คนพร้อมใจกันตะโกนออกมา คนดูในวันนั้นโคตรโหดเหี้ยม แต่ผมชอบมันมากนะ”
เหตุการณ์ยังต่อเนื่องมาสู่ปี 2007 วง Mushroomhead ได้ด่าวง Slipknot ว่าเป็น “วง NSYNC ของเฮฟวี่ เมทัล” แต่ก็ไม่มีการตอบโต้จากฝ่ายตรงจข้ามแต่อย่างใด
แต่ในแง่ความสำเร็จของวง Slipknot ที่ดูจะทิ้งห่างวง Mushroomhead ไปเรื่อย ๆ ตัวอย่างเช่น อัลบั้ม ‘Vol. 3: The Subliminal Verses‘ ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 ในอเมริกันชาร์ต ส่วน ‘Savior Sorrow‘ ของ Mushroomhead แทบจะหายไปจากชาร์ต
“สงครามยุติและการแสดงความเคารพแด่ PAUL GRAY”
Corey Taylor ได้ยุติการปะทุเชื้อเพลงระหว่างความบาดหมางของทั้ง 2 วง เพราะรู้สึกเบื่อหน่ายกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น จนกระทั่งมาถึงเหตุการณ์การจากไปของ Paul Gray ในปี 2010 ทางวง Mushroomhead ได้ส่งข้อความแสดงความเสียใจมาให้กับวง Slipknot ถือเป็นการสิ้นสุดเรื่องราวทั้งหมดลงอย่างสวยงาม
ที่มา : loudersound

Owner, Co-Founder and Writer of Headbangkok
Vocalist : Tragedy of Murder