เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (28 มิถุนายน) ที่เทศกาลดนตรี Glastonbury Festival ที่ประเทศอังกฤษมีบันทึกสถิติใหม่เกิดขึ้น นั่นคือการปรากฎตัวของวงดนตรีเมทัลวงแรกในประวัติศาสตร์กว่า 44 ปีของการจัดเทศกาลดนตรีนี้มา ชมบันทึกการแสดงสดตลอด 90 นาทีของพวกเขาได้ที่ท้ายข่าว
ก่อนหน้านี้พวกเขาต้องเผชิญกับคำครหาในแง่ลบมากมายหลังจากที่ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาจะมาเป็นหนึ่งในวงเฮดไลน์เทศกาลของปีนี้ เนื่องจากเจมส์ เฮทฟิลด์เพิ่งไปรับงานเป็นผู้ดำเนินรายการล่าหมีของช่อง History ในอเมริกา ทำให้ชาวฮิปปี้ซึ่งเป็นแฟนเพลงหลักของเทศกาลดนตรีนี้ไม่พอใจและร่วมกันจัดการล่ารายชื่อเพื่อถอดพวกเขาออกจากเทศกาลดนตรีในครั้งนี้ และหลังจากที่โดนโจมตีเรื่องล่าหมีมาก ๆ เข้า พวกเขาก็เลยแปลงร่างเป็นหมีมายิงคนมันซะเลย
Metallica เปิดตัวบนเวทีด้วยวิดีโอพิเศษที่ทำขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เป็นวิดีโอที่เล่าเรื่องราวการออกล่าสุนัขจิ้งจอกของชาวอังกฤษในอดีต โดยสมาชิกทั้งสี่คนในวงรับบทเป็นนักล่าภายใต้ชุดหมีเพื่อออกมาล่ามนุษย์ที่กำลังทำการล่าหมาป่าอีกที แล้วก็ฆ่าไปเพียบ รับชมวิดีโอดังกล่าวที่ทางวงใช้เปิดตัวที่ Glastonbury ได้ด้านล่างครับ วิดีโอตัวนี้ใช้เพลงประกอบจากวงแกลมร็อกชื่อดังในอดีต Sweet นั่นก็คือเพลง “Fox on the Run” — และก่อนที่คลิปการล่านี้จะเริ่มทางวงยังคงเริ่มต้นด้วยฟุตเตจจากภาพยนตร์เรื่อง “The Good, The Bad and the Ugly” เช่นเคยเหมือนที่ทำมาตลอด แต่คราวนี้มีขึ้นข้อความไว้อาลัยให้กับ Eli Wallach นักแสดงที่แสดงนำในภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เพิ่งเสียชีวิตไปในสัปดาห์ก่อนอีกด้วย (Metallica ใช้เพลง “The Ecstasy of Gold” จากภาพยนตร์เรื่องนี้มาเปิดตัวในคอนเสิร์ตตลอดตั้งแต่ปี 1985 เป็นต้นมา แถมยังมีเวอร์ชั่นที่ทางวงนำมาบันทึกเสียงใหม่เพื่อสดุดีให้กับเจ้าของเพลงอย่าง Ennio Morricone ด้วย)
ทางวงเลือกที่จะพูดบนเวทีเพื่อโน้มน้าวให้ผู้จัดงานนำพาวงดนตรีเมทัลมาร่วมในงานนี้ให้มากกว่านี้ เจมส์ เฮทฟิลด์พูดหลังจากที่เล่นเพลง “For Whom the Bell Tolls” และ “Wherever I May Roam” จบว่า “เราภูมิใจมากที่ได้มายืน ณ จุดนี้แล้วก็นำเสนอ เอ่อ เราขอเรียกมันว่าดนตรีอีกแบบที่หนักหน่วงก็แล้วกัน ผมกับเพื่อน ๆ อยากจะมอบเพลงนี้ให้กับทุกคนที่รอคอยวงดนตรีแบบพวกเรารวมถึงวงดนตรีเฮฟวีเมทัลจากอังกฤษวงอื่น ๆ ที่เคยฝันหรือยังคงฝันอยากจะมาเล่นที่นี่อยู่”
ทางวงเล่นโชว์ไปทั้งหมด 90 นาทีเต็มด้วยเพลงฮิตมากมายทั้ง “One”, “Master of Puppets”, “Enter Standman” รวมไปถึงช่วงอังกอร์อย่าง “Whiskey in the Jar”, “Seek and Destroy” รวมถึงทางวงยังปล่อยลูกโป่งยักษ์ตามสไตล์เหมือนที่เคยทำมาตลอดให้แฟนเพลงได้เอ็นจอยกับการเล่นดอดจ์บอลระหว่างดูคอนเสิร์ตอีกด้วย (อ้างอิงจาก BBC News)
เจมส์ เฮทฟิลด์พูดทิ้างท้ายก่อนจบโชว์ในครั้งนี้เอาไว้ว่า “Metallica, Glastonbury, โอกาสสุดท้ายที่เราจะได้อยู่ด้วยกันแล้ว มันรู้สึกดีมาก พวกคุณทำให้พวกเรารู้สึกดีมาก ขอบคุณที่มาชมพวกเรา” หลังจากนั้นลาร์ส อุลริช มือกลองของวงก็หยิบไมค์ขึ้นมาพูดบ้างว่า “มันไม่มีที่ไหนบนโลกนี้ที่สวยงามเหมือนเทศกาล Glastonbury อีกแล้ว ขอบคุณที่ยอมให้เราเป็นส่วนหนึ่งในประสบการณ์ของพวกคุณ และเราหวังว่าจะได้พบกับพวกคุณอีกครั้งหนึ่ง”
หลังจากนั้นที่หลังเวที ลาร์สก็ให้สัมภาษณ์กับโจ ไวลีย์จาก BBC เอาไว้นิดหน่อยว่า “มันเป็นอะไรที่โลดโผนมาก ผมจำอะไรมากไม่ค่อยได้… มันเป็นพลังที่มหัศจรรย์”
Speaking to the BBC’s Jo Whiley backstage after METALLICA’s set, Ulrich said: “That was sensational. I don’t remember much of it… the energy was fantastic.” และเมื่อเขาถูกถามให้อธิบายถึงเทศกาลดนตรีนี้ในหนึ่งประโยค เขาก็พูดออกมาง่าย ๆ ว่า “มันคืออีกโลกหนึ่ง” (Other-worldly)
ทางด้านไมเคิล อีวิส ผู้จัดงานนี้ก็ออกมาชื่นชมในความสำเร็จของงานปีนี้ว่าเป็น ‘ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่’ และบอกว่า Metallica เล่นได้ยอดเยี่ยมราวกับว่า ‘ชีวิตของพวกเขาขึ้นอยู่กับงานนี้’
ที่มา – Blabbermouth.net

ผู้ร่วมก่อตั้ง และอดีต บก. Headbangkok.com