สิ่งหนึ่งที่ถือเป็นเรื่องบัดซบมากของการเกิดเป็นมนุษย์คือการถูกรังแกครับ แต่ก็มีหลายครั้งที่การถูกรังแกนั้นแปรเปลี่ยนเป็นพลังให้เราทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ออกมาได้ ในการสัมภาษณ์ครั้งล่าสุดของเดฟ มัสเทน ฟรอนต์แมนวง Megadeth กับทาง Seymour Duncan Pickups เขาอธิบายเอาไว้ว่าการถูกข่มเหงในวัยเด็กเป็นแรงขับเคลื่อนให้เขาเริ่มต้นหัดเล่นกีตาร์ โดยเมื่อผู้สัมภาษณ์ถามเขาว่าอะไรเป็นสิ่งที่ทำให้เขาพัฒนาสไตล์การเล่นกีตาร์ เขาก็เริ่มอธิบายว่า “มันก็เหมือนกับการที่มีคนปิดประตูรถใส่มือคุณนั่นแหละ คุณจะนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ทำอะไรเลยแล้วยินยอมรับความเจ็บปวดก็ได้ หรือคุณจะเปิดประตูออกไปแล้วไล่เตะก้นไอ้ห่านั่นก็ได้เช่นกัน นั่นคือแรงขับเคลื่อนพื้นฐานของผมในการเล่นกีตาร์”
เขาเล่าต่อ “มันก็มีเรื่องที่ผมไม่ชอบในชีวิตอยู่หลายอย่าง ตอนเด็ก ๆ ผมก็ถูกรังแกแล้วก็ได้ระบายมันออกมาผ่านการเล่นกีตาร์ เมื่อคุณเกิดมาเป็นเด็กอายุ 13 ที่ผมบลอนด์ ตัวผอมแห้ง แล้วก็หน้าเป็นกระ แต่คุณดันไปโรงเรียนที่ทุก ๆ คนมันดันเป็นนักเล่นเซิร์ฟกันเนี่ย คุณโดนแน่นอน”
มัสเทนเล่าต่อไปว่าในทีแรกตัวเขาลุกขึ้นมาต่อสู้กับคนรอบข้างด้วยการเรียนรู้ศิลปะป้องกันตัว แต่เขาก็มาพบในภายหลังจากที่ไปร่วมงานปาร์ตี้ว่าผู้คนมากมายหลงรักผู้ชายสะพายกีตาร์ “ผมเองเคยไปปาร์ตี้มาหลายงานนะตอนนั้น” มัสเทนรำลึก “มันมีคนเล่นดนตรีอยู่ที่นั่น พอผมเห็นนี่แบบ ‘ว้าว ทุก ๆ คนรักไอ้คนนี้เพราะเขามีกีตาร์เว้ย’ และนั่นคือตอนที่ผมเริ่มเล่นกีตาร์ ตอนนั้นผมอายุ 13”
มัสเทนบอกว่าการเล่นกีตาร์ทำให้เขามีค่าในสายตาผู้คนรอบข้างมากขึ้น และหลังจากเวลาล่วงเลยผ่านมาหลายสิบปีก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงค่าของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะทุกวันนี้เขาคือหนึ่งในมือกีตาร์ระดับเยี่ยมของโลก ไม่ใช่แค่เฉพาะในวงการเพลงเมทัลอย่างเดียวแต่ครอบคลุมไปถึงวงการเพลงทั้งหมด ใคร ๆ ก็รู้จักน้าเบี้ยว เดฟ มัสเทน ฟังบทสัมภาษณ์ทั้งหมดนี้ได้จากคลิปวิดีโอด้านล่างครับ คิดเห็นยังไงคอมเมนต์บอกกันได้
[ad name=”Leaderboard”]
ที่มา – Loudwire
ผู้ร่วมก่อตั้ง และอดีต บก. Headbangkok.com