Sammii ศิลปินเดี่ยวที่นำเสนอแนวทางดนตรีอินดี้ ป๊อป ได้ออกมาอย่างน่าสนใจและมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนโดยเฉพาะเสียงร้อง รวมไปถึงวิธีการเขียนเนื้อเพลงที่ไม่ซ้ำจำเจกับตลาดทั่วไป นอกจากนั้นเธอยังเป็นลูกสาวของ “เกริก ชิลเลอร์” กับ “อ้อม ศานันทินี พันธุ์ชูจิตร” สองนักแสดงชื่อดังของบ้านเรา ด้วยการซึมซับงานด้านศิลปะและดนตรีจากที่บ้านได้หล่อหลอมให้ Sammii ค้นพบตัวเองในฐานะศิลปินผู้สร้างสรรค์ดนตรี เรามาทำความรู้ตัวตนของ Sammii กันให้มากขึ้นกันครับ
ผลตอบรับซิงเกิ้ล “ปราสาทวังวน”
สำหรับตัวแซมรู้สึกดีมาก ๆ เลยค่ะ แซมได้แฟนเพลงอีกกลุ่มที่มาติดตามเพิ่มมากขึ้น เป็นอีกกลุ่มจากเพลงทานตะวันเข้า แฮปปี้มาก ๆ ค่ะ
ใช้เวลานานขนาดไหนกับการทำเพลง “ปราสาทวังวัน”
จริง ๆ แล้วมันแตกต่างตั้งแต่ตอนถ่าย MV เลยค่ะ เพราะเพลงนี้ถ่ายทำก่อนเพลงทานตะวัน ส่วนเพลงปราสาทวังวนเป็นเพลงที่เกิดขึ้นเร็วมาก เริ่มจากเนื้อเพลง ขึ้นคอร์ดเพลงทั้งหมด อัดเป็นเดโม่ทั้งหมดในสตูดิโอ เหมือนแค่จามออกมาก็เกิดขึ้นแล้วค่ะ ฮ่า ๆๆๆ เร็วกว่ามาก ๆ เพลงทานตะวันค่ะ
แรงบันดาลใจการเขียนเพลง “ปราสาทวังวัน” มาตอนไหน
เพลงนี้แต่งชื่อเพลงก่อนที่จะเขียนเนื้อเพลงค่ะ ไอเดียมาจากคำว่า ‘งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา’ แต่ถ้างานเลี้ยงนั้นมันมาเกิดขึ้นหัวของแซมมันจะเกิดอะไร เพราะปกติแซมจะเป็นคนที่คิดอะไรวนไปวนมา แซมก็เลยเอาส่วนนั้นมาเขียนเป็นเพลง ‘ปราสาทวังวัน’ วนเวียนอยู่ในปราสาทประมาณนี้ ไอเดียเกิดขึ้นในห้องเรียนตอนเรียนคณิตศาสตร์ค่ะ ซึ่งเป็นวิชาที่แซมไม่ค่อนอินมากที่สุดค่ะ ฮ่า ๆๆๆ

การทำงานร่วมกับทีมงานเป็นอย่างไรบ้าง
อย่างแรกเลยคือการสื่อสารค่ะ เมื่อก่อนทำเพลงคนเดียวก็จะคิดอะไรเองคนเดียวไม่มีคนคอยให้ปรึกษาหรือไกด์ให้ ปกติจะปรึกษาเพื่อนอีกคนที่ทำเพลงเหมือนกันแค่นั้นค่ะ แซมก็ปรับตัวเรื่องการสื่อสารในการพูดความคิดของตัวเองให้คนอื่นเข้าใจ ช่วงแรกยากมากแต่ตอนนี้นปรับตัวได้แล้วค่ะ
เริ่มสนใจดนตรีช่วงไหน
แซมชอบงานศิลปะตั้งแต่เด็ก ๆ เล่นเปียโนคลาสสิคตั้งแต่เด็ก ๆ จนถึง 12-13 ส่วนแพชชั่นที่มามาก ๆ คือตอนเรียนมัธยมค่ะ ช่วงนั้นฟังเพลงเยอะมาก ก็จุดประกายอยากจะลองเขียนเพลงเองดูบ้าง แล้วแซมก็โตมากับการฟังเพลงของคุณพ่อ กับงานศิลปะคุณพ่อ คุณพ่อชอบฟัง Aerosmith, Nirvana ประมาณนี้ค่ะ
การร่วมงานกับ Richard Craker
แซมเรียกเค้าว่าพี่ริชาร์ดค่ะ เป็นคนที่ทำงานเร็วมาก ๆ พอแซมทำเพลงไทยกับคนต่างชาติมันก็จะได้มุมมองทางดนตรีที่ออกไปทางอินเตอร์ ซึ่งเหมาะกับแนวทางของแซม มันสนุกมาก ๆ เลยค่ะที่ได้ทำงานไปในทิศทางเดียวกัน แล้วก็จะมีเรื่องของการออกเสียงบางคำในเพลง มีคำบางคำที่แซมอาจจะพูดไม่ชัดอยู่ ก็จะมีพี่ฟั่น โกมลมาช่วยเรื่องการออกเสียงให้ด้วยค่ะ

บรรยากาศการถ่ายทำ MV
วันนั้นเลอะมาก ๆ ค่ะ ฮ่า ๆๆๆ ถ้าใน MV อาจจะไม่ได้เห็นว่าเลอะมาก วันนั้นอาบน้ำอยู่ 4-5 รอบได้ สีเลอะเอาออกได้บ้างไม่ได้บ้าง เป็นวันที่สนุกดีค่ะ เป็นวันที่ดีมาก ๆ แล้วก็เลอะมากค่ะ ใช้เวลาถ่ายตั้งแต่ประมาณ 7 โมงเช้าเพราะต้องใช้แสงช่วงในเช้า เสร็จประมาณ 2 ทุ่มค่ะ
สไตล์ดนตรีของแซมมี่ที่ถูกเรียกว่า “Bedroom Pop”
อาจจะเป็นเพราะว่าแซมทำงานอยู่ในห้องนอนมั้งค่ะ ฮ่า ๆๆๆ แต่สำหรับแซมอาจจะมองว่าไม่ได้เป็น Bedroom Pop ขนาดนั้น เพราะมีการนำเพลงไปทำในสตูดิโอด้วย แซมก็เลยไม่กล้าเอาเพลงของแซมไปวางไว้ในหมวดนั้นมากเท่าไหร่ค่ะ
ศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจ
แรงบันดาลใจและไอดอลของแซมคือ Melanie Martinez แซมมาสนใจพวกเนื้อร้องมากขึ้นจากอัลบั้ม ‘Cry Baby’ เป็นอัลบั้มที่พูดถึงชีวิตของเราในมุมมองของความสดใส เค้าเอาเสียงของเล่นมาใส่ไว้ในเพลงด้วยค่ะ คือตอนนั้นแซวมอายุ 13-14 แซมรู้สึกว้าวมาก มันเป็นแรงบันดาลใจในการแสดงตัวตนของแซมให้ออกมามากขึ้นด้วยค่ะ
เสียงร้องที่มีเอกลักษณ์
ก่อนหน้าที่จะเริ่มร้องเพลงตอนแรกไม่มั่นใจเสียงของตัวเองเลยค่ะ ไม่ค่อยชอบเสียงพูดของตัวเองด้วยซ้ำ รู้สึกว่าเสียงของตัวเองทำไมไม่เหมือนเพื่อนผู้หญิงคนอื่น แต่พอมาวันนึงที่เรารักตัวเองมากขึ้น มองเห็นค่าตัวเองมากขุึ้น เรื่องอื่น ๆ ก็ตามมา เราต้องยอมรับสิ่งที่เราเป็นให้ได้ก่อนค่ะ เรื่องความมั่นใจของเสียงเลยตามมาด้วยค่ะ แล้วแซมเป็นคนชอบร้องเพลงในห้องน้ำอยู่แล้ว ก็ร้องมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายมันก็ออกมาโดยธรรมชาติค่ะ
เครื่องดนตรีที่สามารถเล่นได้นอกจากคีย์บอร์ด
แซมเล่นเครื่องดนตรีไทยได้หมดเลยค่ะ ยกเว้นพวกเครื่องสี แซมเคยเล่นดนตรีไทยมาก่อน เล่นตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ จนมาได้สอนรุ่นน้องเลยค่ะ เป็นอีกแนวที่คนอาจจะไม่คิดว่าแซมเคยเล่นค่ะ
วงดนตรีสากลที่ชื่นชอบ
ช่วงที่แซมเรียนช่วงม.ต้น ก็จะฟังเพลงกับกลุ่มเพื่อน ๆ เช่น Panic! At The Disco, Twenty One Pilots, Paramore ประมาณนี้ค่ะ
ความคาดหวังกับการเป็นศิลปิน
ไม่ได้คาดหวังกับมันมาก ๆ ขนาดนั้นค่ะ อย่างตอนนี้ที่เพลงได้ปล่อยออกไป แค่นี้ก็รู้สึกแฮปปี่กับมันมาก ๆ มันมีคนกลุ่มหนึ่งมองว่าดนตรีของเรามีค่ากับเค้า แค่นี้ก็รู้สึกอิ่มมาก ๆ แล้วค่ะ มันคงจะดีที่เพลงของเราได้ผ่านหูของใครได้มากขึ้นกว่าเดิมค่ะ แซมมองตัวเองเป็นผู้สร้างงานศิลปะที่ส่งไปหาคนฟังค่ะ
ฝากผลงานและช่องทางการติดตาม
ฝากซิงเกิ้ลล่าสุด “ปราสาทวังวัน” และ “ทานตะวัน” ด้วยค่ะ ทุกเพลงที่แซมเขียนมันออกมาจากความรักทั้งหมดเลยค่ะ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ
ทาง Headbangkok ต้องขอขอบคุณน้อง Sammii และ Universal Music Thailand สำหรับการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ด้วยครับ

Owner, Co-Founder and Writer of Headbangkok
Vocalist : Tragedy of Murder