Guns N’ Roses และ Nirvana ชื่อของ 2 วงนี้คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธความยิ่งใหญ่ในระดับตำนานของวงการดนตรีอย่างแน่นอน ฝั่งแรกมาจากยุคแกลม เมทัล/แฮร์ แบนด์ อีกฝั่งก็มาจากยุคกรันจ์/อัลเทอร์เนทีฟ นอกการเรื่องดนตรีที่น่าสนใจแล้ว เรื่องความเป็นอริกันของทั้ง 2 วงก็น่าสนใจไม่น้อย เราลองมาย้อนไทม์ไลน์เหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มความชิบหายวายป่วงจนถึงตอนจบแบบแฮปปี้ เอนดิ้ง กันดีกว่าครับ
(ข้อมูลจากนิตยสาร rollingstone และ Louder Sound)
1991-1992 : Kurt Cobain เปิดฉากโจมตี
Axl Rose ฟรอนต์แมนของวง Guns N’ Roses แสดงออกชัดเจนว่าชื่นชอบวง Nirvana มาก ถึงขนาดที่เจ้าตัวเคยสวมหมวกที่มีโลโก้วง Nirvana มาแล้ว แต่ดูเหมือนว่าฝั่งของ Nirvana โดยเฉพาะ Kurt Cobain จะไม่ได้อินกับอีกฝั่งเท่าไหร่ โดยในช่วงโปรโมตอัลบั้ม ‘Nevermind’ ในปี 1991 ทาง Kurt ได้แสดงออกเรื่องดังกล่าวอย่างชัดเจนผ่านประโยคที่ว่า “วงพวกกูไม่ใช่วงแบบ Guns N’ Roses!”
1992 : Kurt Cobain แสดงความรำคาญต่อ Axl Rose
ความคลั่งไคล้ต่อวง Nirvana ของ Axl Rose ยังไม่จบ เมื่อเจ้าตัวได้พยายามที่จะนำวง Nirvana ไปเล่นเป็นวงเปิดให้กับทัวร์ระดับสเตเดียมที่มีวง Guns N’ Roses และ Metallica ให้จงได้ เรื่องราวในครั้งนี้ถูกเปิดเผยโดย Dave Grohl เอง และทาง Dave ยังได้เล่าเหตุการณ์เพิ่มเติมว่า Axl พยายามโทรหา Kurt แบบไม่หยุดไม่หย่อน มีอยู่วันหนึ่งตอนที่เรากำลังเดินอยู่ในสนามบิน แล้วทาง Kurt ก็พูดขึ้นมาว่า “ไอเวร Axl เลิกโทรหากูซักที”
1992 : Axl Rose เอาคืน ด่า Kurt และ Courtney ว่า “ไอ้ขี้ยา”
Axl Rose สุดทนตัดสินใจด่า Kurt และ Courtney บนเวทีว่า “ความหมายของวง Nirvana และ Kurt Cobain สำหรับกูหน่ะหรอ มีอย่างเดียวเท่านั้นเว้ย คือมันกับเมียของมันเป็นพวกขี้ยา แล้วถ้าลูกของพวกมันเกิดมาพิการนะ กูคิดว่าพวกแม่งก็สมควรจะต้องเข้าไปอยู่ในคุก นี่แหล่ะความรู้สึกของกูเอง”
1992 เดือนกันยายน : เหตุการณ์ที่ The VMAs
และแล้วความบาดหมางก็มาถึงจุดเดือดในงาน MTV Video Music Awards ในปี 1992เหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณหลังเวที ทาง Axl และ Stephanie Seymour ได้เดินผ่านมาเจอกับ Kurt, Courtney และลูกสาวตอนที่ยังเป็นทารก โดยทาง Courtney ได้ประชดประชันและเยาะเย้ยใส่ Axl ว่า “สนใจมาเป็นพ่อทูลหัวให้ลูกของเราป่ะ”
เท่านั้นยังไม่พอบรรดาคนรอบ ๆ ตัวซึ่งส่วนมากเป็นเพื่อนของ Kurt หัวเราะกันลั่น ทำให้ Axl โกรธจัดและไม่รอช้าจัดการด่าสาดใส่กลับไปทาง Kurt ว่า
“หุบปากของมึงไปซะ หรือจะให้กูจัดการมึงลงไปกองกับพื้น!”
ซึ่งทาง Kurt เองก็ได้หันไปดุภรรยาของตัวเองว่า “หุบปากไปซะนังตัวดี”
สาเหตุที่ Kurt ทำแบบนี้เพราะเจ้าตัวเดาว่า Axl ต้องการด่า Courtney มากกว่า
เท่านั้นยังไม่พอ Dave Grohl ยังได้ปั่นประสาท Axl โดยการพูดใส่ไมค์ซ้ำ ๆ หลายรอบหลังจบโชว์เพลง “Lithium” ว่า “Hi, Axl” (กลายเป็นมีมอมตะไปเรียบร้อย)
รวมไปถึงมีเหตุการณ์การกระทับกระทั่งกันระหว่างมือเบส Krist Novoselic และ Duff McKagan อีกด้วย
1992 เดือนธันวาคม : สงครามยังไม่จบ Kurt ออกโรงด่า Axl อีกครั้ง
Kurt ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์เผชิญหน้ากันหลังเวที โดยทาง Kurt ได้โจมตีใส่ Axl ว่า
“มันเป็นพวกบ้ากาม, เหยียดผิว, เป็นพวกรักร่วมเพศ คุณไม่สามารถอยู่ข้างมันได้ แต่อยู่ข้างพวกเราได้นะ ผมขอโทษนะที่ต้องแบ่งพรรคแบ่งพวกแบบนี้ แต่บางอย่างมันไม่สามารถปล่อยวางได้จริง ๆ และที่หนักไปกว่านั้นพวกแม่งยังเขียนเพลงดี ๆ ไม่ได้อีก”
1994 เดือนมีนาคม : สงครามเริ่มสงบ Kurt Cobain พูดคุยกับ Duff McKagan บนเครื่องบิน
ดูเหมือนว่าความบาดหมางของทั้ง 2 วงถึงคราวยุติ ในช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์สลดของ Kurt Cobain ทาง Kurt ได้ขึ้นเครื่องบินกลับไปที่ซีแอตเทิลลำเดียวกับ Duff Mckagan และยังนั่งใกล้ ๆ กันอีก ทั้ง 2 ได้พูดคุยถึงการเข้ารับบำบัดอาการติดยาเสพติด รวมไปถึงพูดคุยเรื่องเพื่อน ๆ รอบตัวของทั้งคู่ ทาง Duff ได้เปิดเผยบทสนทนาดังนี้
“พวกเราพูดคุยเกี่ยวกับความรู้สึกที่ได้กลับมาบ้าน”
“และเขาก็ได้บอกกับผมว่าสิ่งที่เขาทำตอนนี้คือการหาทางกลับบ้าน” (Kurt น่าจะหมายถึงการจบชีวิตตนเอง)
ซึ่งทาง Duff ต้องการเสนอว่าตนเองจะขับรถไปส่ง Kurt ที่บ้านเอง แต่ยังไม่ได้ทันได้พูดอะไร Kurt ก็ดันหายไปซะก่อน
1994 : สงครามยุติพร้อมกับการจากไปของ Kurt Cobain
หลังจากเหตุสลดของ Kurt Cobain ทาง Dave Grohl ได้รับข้อความทางโทรศัพท์จาก Matt Sorum มือกลองของวง Guns N’ Roses
“มึง, กูเสียใจจริง ๆ และกูหวังว่ามึงจะโอเคนะ”
ซึ่งทาง Dave เองก็รู้สึกว่าข้อความนี้มันทำให้เขารู้สึกดีมาก ๆ เช่นกัน
2010 เดือนกุมภาพันธ์ : การยอมรับผิดเป็นสิ่งที่สวยงาม
แม้เวลาจะผ่านไปนานกว่า 16 ปี แต่การยอมรับผิดยังไม่สายเกินไป เมื่อ Duff MacKagan ได้ออกมาขอโทษ Krist Novoselic ถึงเหตุการณ์ที่เคยกระทบกระทั่งกันผ่านนิตยสาร Seattle Weekly
“ด้วยความมีนเมาและการเสพยา ผมต้องการได้ยินในสิ่งที่ผมต้องการเท่านั้น ผมได้เดินตาม Krist Novoselic ไปหลังเวที ผมควบคุมตัวเองไม่ได้เลย และ Krist ผมอยากจะขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นด้วยครับ”
2012 เดือนเมษายน : DAVE GROHL แจมกับ SLASH
ณ งาน Golden Gods Awards มีพิธีมอบรางวัล Lifetime Achievement แด่ Lemmy Kilmister ฟรอนต์แมนจากวง Motörhead ทำให้เกิดโชว์พิเศษขึ้น โดยได้ Slash มาประจำการในตำแหน่งมือกีตาร์และ Dave Grohl มาประจำในตำแหน่งมือกลอง เกิดเป็นภาพแห่งประวัติศาสตร์ของวงการดนตรีที่น่าจดจำ
2016 เดือนเมษายน : มิตรภาพระหว่าง AXL ROSE และ DAVE GROHL
ในระหว่างทัวร์รียูเนียนของวง Guns N’ Roses ซึ่งในตอนนั้น Axl Rose ได้รับบาดเจ็บบริเวณกระดูกช่วงเท้าในระหว่างช่วงวอร์มอัพในคอนเสิร์ตที่ L.A. ทำให้เจ้าตัวต้องขอยืมบังลังก์ของ Dave ที่เคยใช้เล่นคอนเสิร์ตกับ Foo Fighter ตอนที่ขาหักมาใช้ เป็นกาตอกย้ำที่ชัดเจนว่าความอริของทั้ง 2 วงจบลงแล้ว
โดยหลังจากปี 2016 ทาง Dave Grohl ได้มีโอกาสแจมกับวง Guns N’ Roses อีกหลาย ๆ ครั้งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นวันที่ 11 พฤศจิกายน ปี 2017 ที่เจ้าตัวขึ้นไปแจมเพลง “Paradise City” ณ เมือง Tulsa, รัฐ Oklahoma รวมไปถึงกันแจมกันระหว่าง Foo Fighter และ Guns N’ Roses ในปี 2018 กับเพลง “It’s So Easy” เป็นต้น เป็นการปิดฉากความบาดหมางลงและก่อกำเนิดมิตรภาพอันสวยงามขึ้นมาแทน
Owner, Co-Founder and Writer of Headbangkok
Vocalist : Tragedy of Murder