หลังจากเกิดเหตุการณ์ของคุณแตงโมขึ้น ตามมาด้วยแผ่นดีวีดีบันทึกการแสดงสด “Orgullo, Pasión Y Gloria: Tres Noches En La Ciudad De México” (ซึ่งเป็นแผ่นปลอม) ไปปรากฏที่หน้าห้องคอนโดของคุณแม่แตงโม งานนี้เหล่าบรรดานักสืบโคนันต่างพยายามตีความโดยการเอาสิ่งที่ได้เห็นมาเชื่อมโยงกันอย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยเพลงที่ถูกนำมาพูดถึงคือ “Enter Sandman” เพราะใน MV มีฉากเด็กจมน้ำ หรือ Robert Trujillo มือเบสคนปัจจุบันของวงมีชื่อนำหน้าเหมือนคนบนเรือเป็นต้น แต่ว่าจริง ๆ แล้วตัวเพลงต้องการสื่อสารความหมายอะไร มาทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กันครับ

ก่อนที่จะไปรู้จักความหมาย มาทำความรู้จักที่มาที่ไปของเพลงนี้กันก่อน “Enter Sandman” เป็นเพลงแรกที่อยู่ในอัลบั้มปกดำ และเป็นซิงเกิ้ลแรกที่ทางวงปล่อยออกมาโปรโมตเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 1991 ซึ่งถือว่าเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของวง Metallica ด้วยปรับจากดนตรีแธรชเมทัลอันดุดัน ให้กลายดนตรีสไตล์เฮฟวี่ เมทัล (ที่มีกลิ่นอายสโตนเนอร์) ที่มีจุดเด่นคือความติดหูและเข้าสู่ตลาดเมนสตรีมได้อย่างง่ายดาย จนทำให้แฟนเดนตายหลายคนเบือนหน้าหนี แต่ในทางกลับกันพวกเขาสามารถกวาดแฟนเพลงได้อีกจำนวนมหาศาล จนสามารถต่อยอดกลายมาเป็นวงดนตรีที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากวงหนึ่งของโลกจนถึงปัจจุบัน

จุดเริ่มต้นของการเขียนเพลง “Enter Sandman” มาจากการคิดภาคริธึ่มโดย James Hetfield นักร้องนำ/มือกีตาร์ และ Lars Ulrich มือกลอง ก่อนจะส่งต่อมายัง Kirk Hammett มือกีตาร์ผู้เป็นคนคิดริฟฟ์กีตาร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอัลบั้ม Louder Than Love ของวง Soundgarden การคิดพาร์ตดนตรีถือว่าไหลลื่นและเสร็จไปด้วยความรวดเร็ว และเนื้อร้องถือว่าตามมาเป็นส่วนสุดท้าย

ในตอนแรกเนื้อหาของเพลงถือว่าจริงจังเอาเรื่อง เพราะ James Hetfield ได้เขียนเกี่ยวกับอาการเสียชีวิตกระทันหันของเด็กทารกวัยไม่ถึงขวบในขณะที่กำลังนอนหลับ แต่ทาง Bob Rock โปรดิวซ์เซอร์ของวง ณ เวลานั้นมองว่าเนื้อหามันมีความน่ากลัวเกินไป คนเข้าถึงยาก เขาจึงได้พูดคุยกับ James เพื่อเปลี่ยนเนื้อเพลงให้มีความซอฟต์ลงและสามารถนำไปเปิดตามวิทยุได้ และสุดท้ายมันก็ได้ถูกปรับเปลี่ยนออกมาให้กลายเป็นสิ่งที่เราได้ยินในปัจจุบัน ซึ่งสามารถถอดความหมายได้ดังนี้

“Say your prayers little one
Don’t forget my son
To include everyone”

กล่าวคำอธิษฐานสิเจ้าตัวน้อย

ห้ามลืมเด็ดขาดนะลูก

แล้วสวดเผื่อทุก ๆ คนด้วย

“I tuck you in, warm within
Keep you free from sin
Till the Sandman he comes”

พ่อจะกอดลูกด้วยความอบอุ่น

ปกป้องลูกจากสิ่งชั่วร้ายทั่งปวง

จนกระทั่งแซนด์แมนเข้ามา…

“Sleep with one eye open
Gripping your pillow tight”

นอนหลับด้วยความหวาดระแวง

กอดหมอนเอาไว้จนแน่น

“Exit light
Enter night
Take my hand
We’re off to never never-land”

แสงสลายหายไป

ความมืดปกคลุมเข้ามา

จับมือของข้าเอาไว้

พวกเราจะไปในดินแดนที่ไม่มีใครเคยไป

“Something’s wrong, shut the light
Heavy thoughts tonight
And they aren’t of Snow White”

มีบางสิ่งผิดปกติ ไฟได้ถูกดับลง

เกิดอาการคิดมากในค่ำคืนนี้

และความฝันที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องของสโนไวท์เลย (อาจจะหมายถึงไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุก)

“Dreams of war
Dreams of liars
Dreams of dragons fire
And of things that will bite, yeah”

ผมฝันถึงสงคราม

ฝันถึงการหลอกลวง

ฝันถึงมังกรพ่นเปลวเพลิง

และสิ่งเหล่านี้มันจะกัดกินผม, เย้

“Sleep with one eye open
Gripping your pillow tight”

นอนหลับด้วยความหวาดระแวง

กอดหมอนเอาไว้จนแน่น

“Exit light
Enter night
Take my hand
We’re off to never never-land”

แสงสลายหายไป

ความมืดปกคลุมเข้ามา

จับมือของข้าเอาไว้

พวกเราจะไปในดินแดนที่ไม่มีใครเคยไป

“Now I lay me down to sleep (Now I lay me down to sleep)
Pray the lord my soul to keep (Pray the lord my soul to keep)”

ตอนนี้ลูกได้ทิ้งตัวลงนอน

ขออธิษฐานให้พระเจ้าปกป้องวิญญาณของฉัน

“And
If I die before I wake (If I die before I wake)
Pray the lord my soul to take (Pray the lord my soul to take)”

และถ้าฉันตายก่อนที่จะตื่น

ขออธิษฐานให้พระเจ้ามารับดวงวิญญาณของฉันไป

“Hush little baby, don’t say a word
And never mind that noise you heard
It’s just the beasts under your bed
In your closet, in your head”

จุ๊ ๆ เจ้าเด็กน้อย ไม่ต้องเอ่ยวาจาอะไรทั้งนั้น

และไม่ต้องสนใจกับเสียงรบกวนที่เจ้าได้ยิน

มันก็เป็นเพียงแค่ปีศาจที่อยู่ใต้เตียง

อยู่ในเสื้อผ้า อยู่ในหัวของเจ้า

“Exit light
Enter night
Grain of sand”

แสงสลายหายไป

ความมืดปกคลุมเข้ามา

เต็มไปด้วยเม็ดทราย

“Exit light
Enter night
Take my hand
We’re off to never never land, yeah”

แสงสลายหายไป

ความมืดปกคลุมเข้ามา

จับมือของข้าเอาไว้

พวกเราจะไปในดินแดนที่ไม่มีใครเคยไป

“We’re off to never never land (take my hand)
We’re off to never never land (take my hand)”

พวกเราจะไปในดินแดนที่ไม่มีใครเคยไป (จับมือของข้าไว้)

พวกเราจะไปในดินแดนที่ไม่มีใครเคยไป (จับมือของข้าไว้)

จะเห็นได้ว่าความหมายของเพลงเป็นการเล่าถึงการเผชิญฝันร้ายของเด็กน้อยคนหนึ่ง ซึ่งภาพเหล่านั้นได้ปรากฏออกมาในตัว MV ที่เอาจริง ๆ แล้วมันเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดกับเราทุกคนเหมือนกัน เช่น การฝันว่ากำลังตกจากที่สูง เช่น ตกจากตึกหรือภูเขา, ฝันว่ากำลังจมน้ำ, ฝันว่ากำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่างที่กำลังไล่ล่าเรา รวมไปถึงการฝันว่าเจอตัวอะไรประหลาด ๆ ที่ดูน่ากลัว ซึ่งเวลาที่เราฝันเกี่ยวกับอะไรแบบนี้จะต้องตกใจตื่นมาพร้อมกับจังหวะหัวใจที่เต้นรัว ๆ

พอจะมองภาพรวมออกกันแล้วใช่ไหมครับว่าเนื้อหาของเพลงไม่ได้มีอะไรซับซ้อนไปกว่าเรื่องความฝัน หรือใครจะมองว่าเพลงนี้มันรุนแรง ถ้าคุณพูดแบบนี้แฟนเพลง Metallica โกรธตายแน่นอนเพราะคุณยังไม่เคยฟังผลงานจาก 4 อัลบั้มแรก “Kill ‘Em All”, “Ride The Lightning”, “Master of Puppets” และ “…Justice For All” ที่บอกได้เลยว่าดุเดือดกว่าเยอะ

นอกจากนั้นแล้วเพลง “Enter Sandman” ยังเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สามารถทำยอดขายซิงเกิ้ลได้หลายล้านก็อปปี้ และมียอดดาวน์โหลดแบบดิจิตัลมากถึง 3.1 ล้านครั้ง อีกทั้งยังช่วยให้ Black Album ทำยอดขายได้ถล่มทลายสูงถึง 24 ล้านก็อปปี้ทั่วโลก แถมยังเคยขึ้นชาร์ตยูเอสบิลบอร์ดอันดับ 1 และขึ้นอันดับในอีกหลาย ๆ ชาร์ตทั่วโลก

สิ่งที่อยากจะให้ทุกคนเข้าใจเกี่ยวกับดนตรีเมทัลคือแม้ว่าภาพลักษณ์ภายนอกทั้งดนตรีและการแต่งตัวจะดูมีความน่ากลัว แต่จริง ๆ แล้วพวกเขาเหล่านั้นก็คือคนปกติทั่วไป แค่มีรสนิยมการฟังเพลงที่แตกต่างเท่านั้นเอง ทุกคนมีชีวิตที่ต้องออกไปเรียน ออกไปทำงาน ดูแลครอบครัว เลี้ยงสุนัข เลี้ยงแมว หรือมีงานอดิเรกที่คอนทราสต์กับเพลง เช่น George Fisher นักร้องนำ Cannibal Corpse ก็เป็นคนที่ชื่นชอบการคีบตุ๊กตาเป็นชีวิตจิตใจเป็นต้น

เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่ไม่ได้เข้าใจเพลงเมทัลและผ่านมาเห็นบทความนี้ อย่าเพิ่งตัดสินใจชาวเมทัลจากเพียงภายนอก และหวังว่าจะสร้างความเข้าใจอะไรใหม่ ๆ ให้กับทุกคนได้ไม่มากก็น้อยนะครับ