ยี่สิบปีผ่านไปไวเหมือนโกหก กว่าเราจะรู้ตัวกันอีกทีวงการเพลงในปัจจุบันนี้ก็ก้าวเข้ามาสู่การขายแบบดิจิตัลเต็มตัวแล้ว เรียกว่าวงดนตรีวงไหนที่จะปล่อยเพลงแบบแผ่นซีดีออกมา ก็จะมีขายแบบดิจิตัลดาวน์โหลดควบคู่กันไปด้วย รวมถึงวงดนตรีเล็ก ๆ หลายวงที่ไม่มีต้นทุนในการผลิตก็หันไปขาย/แจกเพลงกันผ่านการดาวน์โหลดกันมากขึ้น
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนปี 1994 หรือเมื่อ 20 ปีที่แล้ว มวลมนุษยชาติได้ทำความรู้จักกับการดาวน์โหลดเพลงผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตมาฟังกันอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก และก็ถือเป็นเกียรติที่ชาวร็อกสามารถเอาไปอวดใครก็ได้ เพราะเพลงแรกที่เปิดโลกใหม่ให้กับอุตสหากรรมดนตรีนี้คือเพลงร็อก เพลงนี้คือเพลง “Head Fist” ของวง Aerosmith เพลงนี้เป็นเพลงที่เกือบจะได้อยู่ในอัลบั้ม “Get a Grip” แต่ก็ไม่ได้ใส่ลงไปด้วย ทางค่าย Geffen Records ก็เลยนำเพลงนี้ออกมาปล่อยให้ดาวน์โหลดกัน และก็ทำสถิติยอดดาวน์โหลดถึงหลักหมื่นครั้งภายในแปดวันผ่านทาง CompuServe ซึ่งก็ต้องบอกว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นคือหลักกิโลใหม่ของวงการเพลงที่ต้องปักหมุดเอาไว้ใหญ่ ๆ เลยก็ว่าได้ ไฟล์เพลงที่ถูกปล่อยมาให้ดาวน์โหลดกันในตอนนั้นมีขนาด 4.3 เมกะไบต์ เป็นไฟล์นามสกุล WAV ซึ่งก็ใช้เวลาดาวน์โหลดกันกว่า 60-90 วินาทีกันเลยทีเดียวด้วยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของโลกในตอนนั้น
ซึ่งไอเดียในการปล่อยเพลงในรูปแบบนี้ก็มาจากสตีเวน ไทเลอร์ ฟรอนต์แมนของวง Aerosmith นั่นเอง เขาบอกเอาไว้ตอนแถลงข่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ถ้าแฟนเพลงของเรากำลังขับรถอยู่บนถนนซูเปอร์ไฮเวย์แห่งข้อมูลนั่น เราก็อยากจะเล่นให้พวกเขาฟังที่จุดพักรถกันไปเลย” (“If our fans are out there driving down that information superhighway,” he said, “then we want to be playing at the truck stop.”) ถือว่าเป็นมนุษย์โลกอีกหนึ่งคนที่มีความคิดก้าวหน้าไปไกลมาก
ในตอนนั้นนีล สเตราส์ (ผู้เคยเขียนหนังสือชีวประวัติของวง Motley Crue) จากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ ก็ได้เขียนถึงการดาวน์โหลดเพลงเอาไว้แบบน่ากังวลใจ ว่าการเดิมพันครั้งนี้มันเกี่ยวข้องกับอนาคตของวงการดนตรีด้วย เพราะถ้าคนเราสามารถหาเพลงฟังได้ผ่านสายโทรศัพท์ที่เสียบอยู่กับคอมพิวเตอร์แล้ว ผลกระทบจะตกมาที่ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายแน่นอน เทคโนโลยีในตอนนั้นยังมีข้อจำกัดทั้งด้านเวลาและความจุในการดาวน์โหลดเพลงทั้งแผ่นซีดีอยู่ (ฮาร์ดดิสก์ไม่ได้จุ อินเทอร์เน็ตไม่ได้เร็วเหมือนทุกวันนี้) แต่บริษัทคอมพิวเตอร์หลายแห่งก็กำลังแก้ไขเรื่องนี้กันอยู่ และนอกเหนือจากนั้นแล้วก็ยังมีเรื่องเกี่ยวกับลิขสิทธิ์เข้ามาอีกด้วย (อ่านเรื่องราวย่อหน้านี้เต็ม ๆ ได้ที่ Bring Back Glam)
อ่านบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้เต็ม ๆ (ฉบับยาวมาก) ได้บนเว็บไซต์ Noisey ที่นี่ครับ GO AEROSMITH: How “Head First” Became the First Digitally Downloadable Song 20 Years Ago Today
สิ่งที่กังวลกันเมื่อ 20 ปีที่แล้วอย่างเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์นั้นก็เกิดขึ้นจริง ๆ และก็ยังคงแพร่หลายอย่างต่อเนื่องด้วย ก็คงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าปลูกฝังจิตสำนึกและทำใจแหละครับ เพราะทุกวันนี้ก็ต้องยอมรับกันว่าต่อให้มีเพลงมาขายบนหน้าจอให้ซื้อกันแบบถูกลิขสิทธิ์ง่าย ๆ แล้ว คนก็ยังพยายามไปหาไฟล์แบบละเมิดลิขสิทธิ์มาฟังกันอยู่ดี ถ้ามันจะฟังให้ได้
แต่ก็ไม่ใช่ว่าวงการดนตรีจะพังไปเสียทีเดียว เพราะสถิติครึ่งแรกของปีนี้นั้น กระแสการฟังเพลงแบบออนไลน์สตรีมมิ่งและแผ่นเสียงไวนิลเติบโตคู่กันมาเป็นอย่างมากครับ จะมีที่อาการน่าเป็นห่วงก็เพียงแค่ซีดีเท่านั้น แต่อุตสาหกรรมดนตรีก็ยังไม่ตายเสียทีเดียว ข้อมูลตรงนี้เอาไว้มาต่อกันตอนหน้าครับ สวัสดี

ผู้ร่วมก่อตั้ง และอดีต บก. Headbangkok.com