“Breaking The Habit” เป็นอีกหนึ่งซิงเกิ้ลที่ถูกนำมาโปรโมตของอัลบั้ม ‘Meteora’ ของวง Linkin Park โดยมันถูกเผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2004 หรือเมื่อ 18 ปีก่อน และเป็นอีกหนึ่งเพลงที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก วัดได้จากปัจจุบันที่มียอดเข้าชม MV กว่า 279 ล้านวิวเข้าไปแล้ว
ดนตรีในเพลงนี้ถ้าไม่นับเพลงอย่าง “Nobody’s Listening” ซาวด์ดนตรีในเพลง “Breaking The Habit” ก็ถือได้ว่ามีความแตกต่างและโดดเด่นมาก ๆ ในอัลบั้ม เพราะมันเต็มไปด้วยซาวด์สังเคราะห์หม่น ๆ, ซาวด์กีตาร์ที่เล่นด้วยอารมณ์, ซาวด์ของเครื่องสายที่มาช่วยเสริมบรรยากาศ รวมไปถึงเสียงร้องที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความเจ็บปวดของ Chester Bennington ซึ่งเนื้อหาของเพลงมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ
แปลเนื้อหาเพลง “Breaking The Habit”
“Memories consume
Like opening the wound
I’m picking me apart again
You all assume
I’m safe here in my room
Unless I try to start again”
ความทรงจำที่กลืนกิน
เปรียบเสมือนการเปิดรอยบาดแผล
ฉันกำลังจะแยกตัวฉันเองออกจากกันอีกครั้ง
พวกคุณต่างเดากันว่า
ตัวฉันเองคงปลอดภัยเมื่ออยู่ในห้อง
เว้นแต่ว่าฉันได้พยายามทำร้ายตัวเองอีกครั้ง
*”I don’t want to be the one
The battles always choose
‘Cause inside I realize
That I’m the one confused”
ฉันไม่ได้ต้องการเป็นหนึ่งใน
การต่อสู้ที่ถูกเลือกอยู่เสมอ
เพราะในจิตใจฉันรู้ดีว่า
ฉันเป็นหนึ่งในคนที่เคยรู้สึกสับสน
**”I don’t know what’s worth fighting for
Or why I have to scream
I don’t know why I instigate
And say what I don’t mean”
ฉันไม่รู้ว่าจะต่อสู้ไปเพื่ออะไร
หรือทำไมฉันต้องกรีดร้องด้วย
ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงต้องพูดจายั่วโมโห
และพูดในสิ่งที่ไม่ได้ตั้งใจ
“I don’t know how I got this way
I know it’s not alright
So, I’m breaking the habit
I’m breaking the habit tonight”
ฉันไม่รู้ว่าฉันได้รับเรื่องแบบนี้มาได้อย่างไร
ฉันรู้ว่ามันไม่ดีเอาซะเลย
ดังนั้นฉันขอหยุดยั้งสันดานแบบนี้
ฉันขอหยุดยั้งสันดานแบบนี้ในคืนนี้
“Clutching my cure
I tightly lock the door
I try to catch my breath again
I hurt much more
Than anytime before
I had no options left again”
การเยียวยาความเจ็บปวด
ฉันได้ล็อกประตูห้องเอาไว้
ฉันพยายามกลั้นหายใจอีกครั้ง
ฉันรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน
เกินกว่าทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา
ฉันไม่มีตัวเลือกเหลืออยู่อีกแล้ว
(*)
(**) (ท่อนฮุคแรกที่ร้องว่า “I know it’s not alright” เปลี่ยนเป็น I’ll never be alright (ฉันจะไม่มีวันกลับมาดีได้เหมือนเดิม)”
“I’ll paint it on the walls
‘Cause I’m the one at fault
I’ll never fight again
And this is how it ends”
ฉันจะระบายมันลงไปในกำแพง
เพราะว่าฉันคือหนึ่งในคนที่ทำผิดพลาด
ฉันจะไม่มีวันต่อสู้อีกครั้ง
และนี่คือจุดจบของมัน
“I don’t know what’s worth fighting for
Or why I have to scream
But now I have some clarity
To show you what I mean
I don’t know how I got this way
I’ll never be alright”
ฉันไม่รู้ว่าจะต่อสู้ไปเพื่ออะไร
หรือทำไมฉันต้องกรีดร้องด้วย
แต่ตอนนี้ฉันมีสิ่งที่มีความชัดเจน
เพื่อแสดงให้คุณเห็นว่ามันหมายถึงอะไร
ฉันไม่รู้ว่าฉันได้รับเรื่องแบบนี้มาได้อย่างไร
ฉันรู้ว่ามันไม่ดีเอาซะเลย
ฉันจะไม่มีวันกลับมาดีได้เหมือนเดิม
“So, I’m breaking the habit
I’m breaking the habit
I’m breaking the habit tonight”
ดังนั้นฉันขอหยุดยั้งสันดานแบบนี้
ขอหยุดยั้งสันดานแบบนี้
ฉันขอหยุดยั้งสันดานแบบนี้ในคืนนี้
ทาง Mike Shinoda ผู้เป็นคนดีไซด์ซาวด์ของเพลงนี้ขึ้นมาได้เคยพูดถึงเนื้อหาของ “Breaking The Habit” ที่ใช้เวลาทำนานถึง 5 ปีไว้ว่า
“เพลงนี้มันเคยเป็นแทร็กที่มีแต่เพลงบรรเลงมีความยาวนานถึง 10 นาทีมาก่อนครับ แต่เพื่อน ๆ ในวงก็โน้มน้าวให้ผมเอามาทำเป็นเพลงเต็ม ๆ ซักที ผมภูมิใจกับเพลงนี้ในหลาย ๆ ด้านด้วยครับ ผมทำงานกับมันอย่างหนักกับมัน ผมคิดว่าเพลงนี้มันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังมาก ๆ มันคือหนึ่งในเพลงที่ Chester ร้องออกมาได้ยอดเยี่ยมสุด ๆ”
“ส่วนเนื้อเพลงพูดถึงความต้องการออกมาจากด้านแย่ ๆ ของตัวเอง มันนำไปสู่ทางออกที่ดีกับสถานการณ์แบบนั้น กับเนื้อเพลงนี้โดยทั่วไปแล้วเราใช้เวลากับมันนานเอามาก ๆ ผมไม่มีทางบอกความหมายของมันได้ดีไปกว่าตัวของเนื้องเพลง จริง ๆ นะครับ”
ส่วน MV อนิเมชั่นสร้างโดย Gonzo K.K. ของประเทศญี่ปุ่น กำกับภาพโดย Joe Hahn มือเทิร์นเทเบิ้ลของวง ร่วมด้วย Eric Calderon ในฐานะผู้ช่วยผู้กำกับ และสามารถคว้ารางวัล MTV Video Music Awards ในปี 2004 ได้อีกด้วย
สำหรับเพลง “Breaking The Habit” ทำยอดขายซิงเกิ้ลในอเมริกาและอังกฤษรวมกันได้ถึง 700,000 ก็อปปี้ และสามารถยึดพื้นที่อันดับ 1 ได้บนบิลบอร์ดเมนสตรีม ร็อกชาร์ต

Owner, Co-Founder and Writer of Headbangkok
Vocalist : Tragedy of Murder