มีบทสัมภาษณ์ของเครก ดัสต์วอลต์ อดีตผู้จัดการส่วนตัวของแอ็กเซิล โรส ฟรอนต์แมนวง Guns N’ Roses เมื่อปี 1991-1993 (ยุค Use Your Illustion Tour) กับทาง ABC News เกี่ยวกับการรียูเรียนกันของสมาชิกยุคคลาสสิกไลน์อัพของวงดนตรีวงนี้ว่า ‘เป็นไปได้’
เขาบอกกับ ABC News ว่าการที่ดัฟฟ์ แม็คคาแกน อดีตมือเบสของวงได้ไปร่วมทัวร์กับวงอีกครั้งเมื่อเดือนที่ผ่านมาในอเมริกาใต้และลาสเวกัสเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่อาจจะทำให้เกิดการรียูเนียนกันได้ การที่ดัฟฟ์ไปแจมกับวงเก่าถือเป็นการเปิดประตูให้กับคนอื่น ๆ ได้ดี แถมยังบอกอีกว่าดัฟฟ์กับแอ็กเซิลไปกันได้ดีในการร่วมงานกันครั้งล่าสุดอีกด้วย แต่เขาก็บอกอีกว่าความสัมพันธ์ของแอ็กเซิลกับแสลช อดีตมือกีตาร์หัวฟูของวงนั้นคงจะเป็นรอยร้าวที่สมานได้ยาก
เขาบอกว่าเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว แสลชไปที่บ้านของแอ็กเซิลอยู่ครั้งนึง แต่แอ็กเซิลก็ไม่ได้ออกมาต้อนรับแต่อย่างใด พวกเขาทั้งสองเกลียดกันอย่างแน่นอน แต่เขาก็ย้ำในเรื่องที่ว่า การที่ดัฟฟ์กลับไปขึ้นเวทีร่วมกับ GN’R นั้นเป็นการเปิดประตูให้การรียูเนียนครั้งนี้ เขาทำนายว่าการรียูเนียนของสมาชิกยุคคลาสสิกไลน์อัพจะเกิดขึ้นในอีกสองปีข้างหน้าครับ
แล้วมารอดูกัน
แอ็กเซิล โรสเคยออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการรียูเนียนของวง และความสัมพันธ์ของเขากับแสลชไว้กับ Billboard เมื่อปี 2009 ว่าต้องให้หนึ่งในสอง (เขา หรือแสลช) ตายไปก่อนแหละถึงจะมีการรียูเนียนเกิดขึ้นได้
ทางด้านดัสวอลต์ไม่ได้พูดเจาะจงไปถึงสาเหตุที่ทำให้แสลชและแอ็กเซิลเกลียดกันและกันว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เขาให้น้ำหนักไปที่เรื่องของรสนิยมดนตรีและทิศทางของวงมากกว่า ที่ทำให้พวกเขาต้องแยกทางกัน เขาเล่าว่าหลังจากจบทัวร์ Use Your Illustion ลงไปแล้ว แสลชต้องการทำเพลงฮาร์ดร็อกให้มันหนักกว่าเดิม ส่วนทางด้านแอ็กเซิลต้องการทำให้มันเป็นบัลลาดร็อกมากกว่านี้ แต่เขาบอกว่าปัญหาส่วนตัวของทั้งคู่ก็มีส่วนด้วยเช่นกัน
แสลชเคยให้สัมภาษณ์กับ The Pulse of Radio เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับแอ็กเซิลเอาไว้ เป็นเรื่องราวปีสุดท้ายก่อนจะถูกไล่ออกจากวง เขาบอกว่าแอ็กเซิลทำตัวเป็นร็อกสตาร์เกินตัวแล้วก็กลายเป็นพวกเผด็จการสั่งโน่นสั่งนี่ ทำให้เขาไม่สามารถร่วมงานด้วยได้อีกต่อไป เขาไม่ใช่พวกที่ต้องมานั่งรับคำสั่ง
ทางวง Guns N’ Roses ไม่ได้ออกผลงานใหม่มาตั้งแต่ “Chinese Democracy” เมื่อปี 2008 แล้ว แต่ทางด้านแสลชยังคงทำผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องครับ และอัลบั้มที่สามของโปรเจ็กต์เดี่ยวเขา “World on Fire” ก็จะวางแผงในเดือนกันยายนนี้
ที่มา – Blabbermouth.net
ผู้ร่วมก่อตั้ง และอดีต บก. Headbangkok.com