เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมามีข่าวการฆาตกรรมนักดนตรีอันเดอร์กราวด์เกิดขึ้น 1 คดี นั่นคือ นายสามองค์ ไตรศรัทธา หรือที่รู้จักกันในชื่อ “อเวจี” สมาชิกวงแบล็คเมทัลของไทย เซอร์เรนเดอร์ ออฟ ดิวินิตี้ (Surrender of Divinity) และหลังจากนั้นไม่นานก็มีข้อความจากเฟซบุ๊กของผู้ต้องสงสัยที่ดื่มเบียร์ด้วยกันก่อนลงมือสังหาร อ้างว่าตัวเองเป็นคนวางแผนและลงมือทำด้วยตัวเอง อ่านรายละเอียดของข่าวเก่าได้ที่นี่ครับ

เฟซบุ๊กส่วนตัวของฆาตกรใช้ชื่อว่า Maleficent Meditation ซึ่งตอนนี้ลบไปแล้ว แต่ก็พอมีคนแคปเจอร์หน้าจอเก็บข้อความหลักฐานไว้มากอยู่ ส่วนหนึ่งของคำสารภาพที่ไม่รู้สึกผิดเคยโพสต์เอาไว้ว่า:

ผมลงมือสังหาร ไอ้รัน แทงมันด้วยมีด ซึ่งข่าวบางเว็บลงผิดว่าผมแทงไปสามแผล แต่จริงๆ ผมซัดไปเกิน 30 ครั้งแน่ๆ และไม่ได้เป็นการปาดคอตอนเผลอด้านหลัง ผมยืนเผชิญหน้ามันควักมีดออกมาแล้วแทงที่คอรัวๆ เลยด้านหน้า ไม่มีปาด ไม่มีฟัน แทงทุกแผล และดูมันดิ้นรนกระเสึอกกระสน คลานอย่างหมา ยกมือร้องขอชีวิต ตอนมันพูดว่า “อย่า” เสียงมันก็ออกมาแต่ลมแล้วพร้อมกับเลือดที่กระฉูดออกมา ตามคำที่มันพูด แต่ผมก็แทงมันซ้ำที่คอ ที่กระโหลก ซ้ำแล้วซ้ำอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีก (บางครั้งมีดก็ติดกระโหลกก็ดึงออกยาก) ผมเพิ่งรู้ว่าการฆ่าคนด้วยมีดมันได้อรรถรส ความตื่นเต้น อารมณ์ มากกว่าการใช้ปืนยิงเยอะหลายสิบเท่า และพอทำเสร็จผมก็กลับมาทำสมาธิที่โรงแรมที่ผมเช่าไว้ต่อแบบสบาย และแน่นอนว่าผมไม่เสียใจในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป

ล่าสุดมีรายงานเข้ามาผ่านเว็บไซต์เมเนเจอร์ออนไลน์ว่า นายปราการ หาญพันธุ์บุษกร หรือสัน ผู้ต้องหามามอบตัวแล้วพร้อมนายประคอง พ่อบุญธรรมซึ่งมีเป็นอาชีพทนาย โดยอ้างว่าทำไปเพราะป้องกันตัว และกลับลำให้การกับตำรวจว่าเป็นประเด็นทางการเมืองแทน:

ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้ไปที่บ้านผู้ตาย จากนั้นก็ได้นั่งกินเบียร์ด้วยกันแล้วเถียงเรื่องการเมืองอย่างรุนแรง เนื่องจากผู้ตายมีแนวคิดชื่นชอบกลุ่ม กปปส.และเคยเข้าร่วมชุมนุมด้วย ส่วนตนเองไม่ชอบผู้ชุมนุมกลุ่มนี้ ต่อมาผู้ตายได้หยิบมีดขึ้นมาจะทำร้าย ตนจึงแย่งมีดและแทงจนเสียชีวิตแล้วหลบหนีไป กระทั่งบิดาเกลี้ยกล่อมให้มอบตัวดังกล่าว

จากคอมเมนต์ในเฟซบุ๊กของคุณ Panyawat Sridi ทำให้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่าวันนี้ทางตำรวจจะพาผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคดีกันที่ Clubhouse SSB ซอยสายไหม 34 ครับ

ก็ต้องมาดูกันต่อไปครับว่าเรื่องจะจบลงแบบไหน เพราะนี่ไม่ใช่แค่การมอบตัวเพราะสำนึกผิดแน่นอนเนื่องจากคำให้การเป็นหนังคนละม้วนกับสิ่งที่เขาเคยโพสต์ไว้บนเฟซบุ๊กหลังจากลงมือฆ่าเสร็จ ยิ่งประกอบกับอาชีพของพ่อบุญธรรม (นามสกุลเดียวกัน) ที่มีอาชีพเป็นทนายด้วยแล้ว เรื่องยิ่งซับซ้อนเข้าไปใหญ่ครับ

แล้วจะมารายงานให้ทราบกันอีกที

แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นเขาทำตามคำพูดที่เคยบอกไว้ผ่านเฟซบุ๊กหลังจากลงมือฆ่าอเวจีว่า:

สาเหตุที่ผมลงมือสังหารก็ไม่มีไรมากครับ ผมตั้งใจจะกระทำอัตวินิบาตกรรม (ฆ่าตัวตาย) ตอนอายุ 25 อยู่แล้ว

เพิ่มเติม: มีข้อมูลน่าสนใจจากเฟซบุ๊กของคุณ Panyawat Sridi (คนเดียวกับที่เอ่ยถึงไปข้างบน) มาให้อ่านและวิเคราะห์ว่า เรื่องราวที่แท้จริงเป็นยังไงกันแน่

– เริ่มแรก ก่อนลงมือ วันเกิดเหตุแม่งทำเป็นไปหา “Avaejee” หรือ”พี่รัน”เพื่อติดต่อธุระ *แต่จุดประสงค์ที่แท้จริง ก็อย่างที่รู้ๆกันว่าแม่งจะไปทำเหี้ยอะไร*

– ต่อมา ระหว่างลงมือ แม่งโม้ว่าได้มีการเผชิญหน้ากับพี่รันและพี่เค้าร้องขอชีวิต *แต่ความจริง แม่งรอจังหวะพี่เค้าเผลอ ก่อนจะย่องแทงข้างหลังอย่างขี้ขลาด โดยที่พี่ผมไม่มีโอกาสได้สู้แม้แต่น้อย*

– หลังลงมือได้ไม่นาน ชาวบ้านละแวกนั้นบอก เห็นแม่งล่กๆ ออกมาจากที่เกิดเหตุ เสียบกุญแจรถผิดๆถูกๆ แถมทำกุญแจหล่นหลายครั้งกว่าจะได้ออกรถอย่างตาลีตาเหลือก *ขณะที่เจ้าตัวอวดสรรพคุณผ่านเฟสบุ๊ค บอกเดินออกมาจากที่เกิดเหตุอย่างนิ่ง และไม่รู้สึกอะไร พร้อมอ้างเป็นคำสั่งซาตาน*

– หลังจากนั้น ระหว่างหลบหนี แม่งบอกจะหลบไปฆ่าตัวตายอย่างสงบตอนอายุ 25 *แต่ปัจจุบันอายุ 26 ยังหายใจสบายดีอยู่และไม่มีวี่แววจะตายง่ายๆ*

– นอกจากนี้ มันบอกว่า “จริงๆ อยากจะฆ่าให้ตายซัก 20-30 คน” แหม่ เฮียแกคงกะเอาให้เกลี้ยงวงการใต้ดินเลยนะครับนะ

– จากนั้น ตอนที่ถูกจับกุมได้ คดีกลับพลิกกลายเป็นว่ามันเข้ามามอบตัวเฉย *ทั้งที่ความจริงกองปราบไปรวบตัวแม่งตะหาก*

– หลังถูกคุมตัวสอบสวน แม่งยังแถอย่างต่อเนื่องสารภาพว่าสาเหตุที่ลงมือกับพี่รัน เพราะเกลียด กปปส. และอ้างว่าขัดแย้งกับพี่เค้าเรื่องการเมือง *ทั้งที่ก่อนหน้านี้อ้างคำสั่งซาตาน และที่เด็ดกว่านั้น แม่งหนีหางจุกตูดไปแอบเป่านกหวีดในม๊อบสุเทพที่แม่งเกลียดนักเกลียดหนา

ถ้ามีอะไรคืบหน้าจะรีบมารายงานให้ทราบกันโดยเร็วครับ