Troop Tower วงดนตรีกับสไตล์ที่แตกต่าง นำโดย ยักษ์ มือกลองวง Clash รับหน้าที่ร้องนำ, มะเหมี่ยว ในตำแหน่งกลอง และโอม ในตำแหน่งกีตาร์ พวกเค้าเคยฝากเพลงดังอย่าง “ขอโทษ” ไว้เมื่อ 5 ปีก่อน มียอดวิวสูงถึง 57 ล้านวิว ส่วนที่มาที่ไปของพวกเค้าจะเป็นอย่างไร มารวมตัวกันได้ยังไง มาทำความรู้จัก Troop Tower ไปพร้อม ๆ กันครับ
ผลตอบรับซิงเกิ้ลล่าสุดเป็นอย่างไรบ้างครับ
มะเหมี่ยว : Feedback ผมว่าค่อนข้างดีนะครับ สำหรับเพลง “ถ้ามันจะเป็นแบบนี้” เป็นเพลงที่โอมแต่งครับ คนชอบเยอะมาก แต่คำว่า Feedback ดี เราวัดด้วยความรู้สึกของตัวเองนะ จะไม่วัดด้วยยอดวิว แต่สิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือมีคนอินกับเพลงที่เห็นจากคอมเมนต์ มีคนสัมผัสกับสิ่งที่เราสื่อออกไปครับ

แรงบันดาลใจของ 2 เพลงนี้
ยักษ์ : “ถ้ามันจะเป็นแบบนี้” มีคนในวงเกมครับ ฮ่า ๆๆๆ ส่วน “ภาพดี ๆ” ผมเกมเองครับ ฮ่า ๆๆๆ เล่าจากภาพดี ๆ ก่อนแล้วกันครับ มันมีเหตุการณ์ที่ที่เกิดขึ้นกับตัวเองครับ เรารู้สึกว่าคนที่เขาจะไปก็แค่บอกลา แต่ความเจ็บมันอยู่ที่เรา มันทำให้เสียใจ ทำให้ร้องไห้เลยนะ เขาไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกว่าคนที่หมดรักกันแล้วกับคนที่ยังรักอยู่มันต่างกันเยอะมาก มันคนละโลกเลยนะ เขากำลังจะไปมีความสุข ส่วนคนที่จมอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นคือเรา เรามีสิทธิ์โดยชอบธรรมที่เราจะเสียใจ ที่เราจะร้องไห้ ที่เราจะเกิดภาวะแบบนั้นในจิตใจ คนเรามันห้ามความเจ็บปวดไม่ได้ ปล่อยให้น้ำตาได้เยียวยาให้ทุกสิ่งจะดีขึ้น เรากำลังจะทำให้ตัวเราดีขึ้นด้วยน้ำตา แค่บอกลาแล้วเดินไปก็พอ เราโอเค เราไม่ได้ติดค้างอะไร ก็ปล่อยเราให้ดเสียใจเถอะ ซึ่งเพลงนี้เขียนมานานมากแล้วครับ แต่ว่าเพิ่งได้เอามาทำให้มันสำเร็จเรียบร้อยครับ
ขึ้นตอนในการทำเพลงนี้
โอม : ตอนนั้นเพิ่งดูหนังเกาหลีอยู่ แล้วอยู่ดี ๆ ทำนองมันก็ลอยเข้ามา พอได้เมโลดี้มา ก็เขียนเนื้อตามครับ แล้วก็ส่งไปให้ O-PAVEE ร้อง แล้วก็ให้น้องส่งกลับมา ส่งให้พี่ยักษ์ฟังว่าว่าจะเรียบเรียงดนตรีอย่างไรดี แล้วผมเป็นคนชอบเล่นกีต้าร์อะคูสติค ก็ลองเอามาดูว่าจะเล่นอะไรได้บ้าง พวกเครื่องดนตรีที่ใช้มันก็จะมีแค่กีตาร์กับเปียโนเท่านั้นเองครับ แต่เร็ว ๆ นี้กำลังจะเอามาทำเป็นแบบฟูลแบนด์ครับ
ใช้เวลาทำกันนานขนาดไหนครับ
โอม : ไม่นานครับ พอแต่งเสร็จส่งให้พี่ยักษ์ช่วยฟัง แล้วก็มาเรียบเรียงหน่อยเพราะว่าตอนที่แต่งมาจริง ๆ มันยาวก็เลยมีตัดออกไปบ้างครับ

ใครมาทำหน้าที่มิกซ์และมาสเตอร์ให้ครับ
โอม : เป็นน้องชายครับชื่อแชมป์ครับ เป็นญาติกัน คุยกันง่ายก็เลยทำงานกับน้องเรานี่แหล่ะง่ายดีครับ
จุดเริ่มต้นการรวมตัวของ Troop Tower
ยักษ์ : ก็ต้องเล่าตั้งแต่ว่าตอนแรก เริ่มตั้งแต่ตอนที่เป็นวง Shade ครับ เพราะว่าตอนนั้นคือหลังจากที่วง Clash พักวงไป ก็จะมีโปรเจกต์ที่เราทำร่วมกันมาตั้งแต่ตอนเป็นมัธยม เพราะว่าตอนที่เรียนจะมีรุ่นคือ “พี่พล” กับ “พี่แฮ็ค” เขาเรียนจบไปเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนั้นโรงเรียนราชวินิตบางแก้วมีงานโรงเรียนกับกิจกรรมเยอะมากที่จะต้องใช้วงดนตรี ผมก็ทำวงขึ้นมา มันก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งกัน เป็นผมไปร้องเพลง สุ่มไปเล่นกีตาร์ แบน (ฺBikini) มาเล่นเบส มีเลย์ (Bikini) มาเล่นกลอง ศรีนครินทร์ซาวด์ ช่วง Clash พักก็เลยอย่างเอาโปรเจกต์นี้กลับมาเล่นเพื่อความสนุก เพราะตอนไปทำงานเบื้องหลังปวดหัวมากครับ แต่พอทำไปทำมาสุ่มเค้าอยากไปทุ่มเทให้จักรยาน แบนกับเลย์ก็แยกย้าย ช่วงนั้นก็ได้มะเหมี่ยวมาพอดี เราชอบตอนเล่นให้กับดา Endorphine ชอบอะไรคล้าย ๆ กันหลายอย่าง ก็เลยมาคุยกันว่าจะลุยต่อกันยังไงดีเพราะเรามีความสุขที่จะเล่นแบบนี้อยู่
มะเหมี่ยว : ก็มาคุยกันต่อว่าจะเป็น Shade ต่อหรือจะเป็นวงใหม่ไปเลย ก็เลยเสนอไปว่าสมาชิกหลักที่เหลือเค้าพักไปแล้ว งั้นมาทำวงใหม่กันเลยดีกว่า ก็เลยต้องมาหามือเบส ก็มีพี่โรจน์ วงสุขุมวิท 66 เค้าคอยช่วยงานเราอยู่แล้วแต่ไม่ได้เอามาเป็นสมาชิก พอดีผมรู้จักกับมิ้มที่เล่นกับปาล์มมี่ แต่เค้าไม่ค่อยสะดวกก็เลยแนะนำรุ่นน้องชื่อโอมให้รู้จัก ให้ไลน์มา โอมก็ส่งคลิปตัวเองมาแบบพรีเซนต์สุด ๆ แต่ผมไม่ได้ดูคลิปพวกนั้นเลยนะ ฮ่า ๆๆๆ แค่ถามว่า ‘มึงกินเหล้ากับสูบบุหรี่ไหม’ ซึ่งโอมตอบมาว่าเรื่องดี ๆ ผมมีให้หมด ฮ่า ๆๆๆ ก็เลยตกลงเอาโอมมาทำงานด้วยครับ ฮ่า ๆๆๆ เริ่มมานัดเจอกัน ทำงานด้วยกัน ก็เริ่มคุยกันเรื่องเปลี่ยนชื่อวง
โอม : ช่วงจะเปลี่ยนชื่อวงจะเกิดคำถามบ่อยว่าพี่สุ่มไปไหน พอโอมมาเล่นสีดนตรีมันก็แตกต่างกัน ก็เลยมาคุยกันว่าเปลี่ยนชื่อวงใหม่กันไหม สร้างใหม่เลยไหม ทำให้มันเป็นแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้เลย ก็ตกลงกันได้มาประชุมเปลี่ยนชื่อวงกัน ณ ร้านแห่งหนึ่ง พอดีวันนั้นนั่งคุยกันอยู่พี่แบงค์ Clash เค้าเสนอชื่อทุบตึกมา แต่เรา 3 คนกันชอบ เอาออกจากหัวไม่ได้ พี่เหมี่ยวกับพี่ยักษ์ก็มาคุยกันว่าจะทำอะไรกับชื่อนี้ได้บ้าง พี่เหมี่ยวก็เอามาแปรรูปจาก ทุบเป็น Troop ตึกก็ Tower ครับ
มีการพูดคุยการวาง Direction วงไว้ด้วยหรือไม่ครับ
ยักษ์ : คุยกันเลยครับ หลังจากที่จะเปลี่ยนชื่อวง คือตอนเป็น Shade สีสันมันจัดจ้าน ส่วน Troop Tower เราชอบฟังเพลงเศร้ากัน เสพติดความเจ็บปวด เราก็เอาพาร์ตนี้มาเล่าดีกว่า Troop Tower จะเป็นวงที่เล่าโมเมนต์ความเจ็บปวดจากการจากลา ทุก ๆ เพลงก็จะเป็นเรื่องราวของความผิดหวัง ความเจ็บปวดต่าง ๆ ที่อยู่ในใจเราที่ต้องการจะเล่น ที่ใช้คำว่าเราเพราะทุกคนมีส่วนในการเขียนเพลงแต่ละเพลงด้วยครับ

พี่ยักษ์แบ่งเวลามาทำ Troop Tower อย่างไรครับ
ยักษ์ : ช่วงแรกนี่ไม่ต้องแบ่งเลยครับ ให้เวลาทั้งหมดกับ Troop Tower หมด แต่พอ Clash กลับมาก็ไม่มีเวลาเลยครับ ก็ต้องเปลี่ยนการทำงานคือให้โอมกับเหมี่ยวเอาไปทำเลย ทำอะไรมาพี่ก็ร้องแบบนั้น เพลงก็เลยจะมีเรื่องราวของโอมกับเหมี่ยวด้วยครับ
มะเหมี่ยว : คือตอนแรกการทำเพลงของวงก็จะเป็นขั้นตอนปกติทั่วไปครับ นักร้องขึ้นเพลงแล้ววงเอาไปทำต่อ พอหลังจากพี่ยักษ์เริ่มไม่มีเวลา วงก็เลยไม่มีเพลงเกิดขึ้น พี่ยักษ์ก็เลยรื้อวิธีทำงานใหม่แบบที่พี่ยักษ์ได้บอกไป แล้วพี่ยักษ์เค้ามาตบอีกที มันก็เลยทำให้มีเรื่องราวของผมกับโอมด้วยครับ
มีแผนทำอัลบั้มเต็มกันด้วยหรือไม่ครับ
มะเหมี่ยว : จะมีการทำอีพีทั้งหมด 6 เพลงครับ ตอนนี้มี 4 แล้วครับขาดอีก 2 เพลง รอเวลาทำมันให้สมบูรณ์ครับ
ความคาดหวังต่อ Troop Tower
โอม : สำหรับผมมีคนฟัง มาคอมเมนต์ แค่นี้ก็รู้สึกดีแล้วครับ อย่างน้อยก็มีคนชอบ มีคนอินกับมัน ไม่ได้คิดว่าต้องเปรี้ยงปร้างครับ เราก็ทำตามความชอบของเราเอง ไม่ได้คาดหวังต้องดังอะไรเลยครับ
ยักษ์ : จริง ๆ เราวางไว้ว่าความสำเร็จของเราแค่มีคนมาคอมเมนต์ว่า ‘เห้ย มันตรงกับชีวิตผมเลยหว่ะ’ นี่คือความจริงที่เรารู้สึกฟินกับเรามาก ส่วนเรื่องยอดวิวเป็นตัวเลขที่ทำให้เราภูมิใจแค่นั้นเองครับ
มะเหมี่ยว : มันคือ Role Model ใหม่ วงทั่วไปปกติทำเพลงให้ดังจะได้มีงานเล่น มีงานจ้าง แต่สำหรับพวกเราคือทำเพลง คนชอบ ตัดพาร์ตเล่นสดออกไปเลย มีก็เล่นแต่ไม่ได้ต้องเน้นขายขนาดนั้น แค่มีคนชอบก็พอแล้วครับ
ยักษ์ : แต่ละคนก็เล่นสดกันอยู่แล้วครับ ฮ่า ๆๆๆ
วงร็อก/เมทัล ที่ชื่นชอบแต่ละคน
มะเหมี่ยว : ผมชอบ Incubus อัลบั้ม Morning View ครับ
โอม : ผมจะชอบ Incubus กับ Rage Against The Machine ครับ แล้วก็พวก Extreme, Mr.Big สายแฮร์แบนด์จะชอบมากครับ นอกนั้นจะชอบฟังพวกอะคูสติคครับ
ยักษ์ : ของผม As I Lay Dying อัลบั้ม ‘An Ocean Between Us’ ฟังให้หลับทุกคืนเลยครับ ฟังจนจำได้ทุกท่อนแล้วครับ ชอบอัลบั้มนี้มากจริง ๆ เป็นอัลบั้มเมทัลที่ฟังไม่ยากจนเกินไปครับ เป็นอัลบั้มที่พอจะตีกลองเพลงของพวกเค้าได้ครับ ไม่ได้ทุกลูกนะ เฉพาะบางลูกครับ ฮ่า ๆๆๆ
ฝากผลงานและช่องทางการติดตาม
ยักษ์ : อยากให้ทุกคนเข้าไปฟัง ไปแล้วอินกับเพลงนี้ และเร็ว ๆ นี้พวกเราจะทำอีพีมันเป็นเหมือนหนังสือเล่นนึงที่ให้ทุกคนได้มาเปิดอ่านกันครับ
โอม : เข้ามาคอมเมนต์กันเยอะ ๆ ครับ สิ่งเหล่านี้เป็นกำลังใจให้เราและเป็นแรงบันดาลใจในการทำเพลงให้ฟังด้วยครับ
มะเหมี่ยว : อยากให้ลองฟังเพลงของเราหลาย ๆ รอบแล้วจะเข้าใจมากขึ้นครับ แล้วก็ฝากโปรเจกต์ Live ของทาง Space Bar ด้วยครับ
เบิร์ด : ทาง Space Bar Music กำลังจะมีโปรเจกต์ Live Session ซึ่งทาง Troop Tower จะมาโชว์ด้วยครับ ความพิเศษคือ Troop Tower จะนำเพลงมาเรียบเรียงใหม่ในแบบอะคูสติคใหม่ครับ ซึ่งจะเกิดขึ้นแน่นอนหากสถานการณ์ดีขึ้นครับ ขอให้รอติดตามกันครับ ส่วนใครเป็นศิลปินอิสระ อยากทำงานแบบไม่มีค่าย ลองเข้ามาคุยกับทางเราได้ครับ Inbox มาได้เลย เราจะได้ดูแลเรื่องการโปรโมต เรื่องลิขสิทธิ์ และการพบกับสื่อมวลชนด้วยครับ รับหมดทุกแนวเลยครับผม
ติดตามผลงานของ Troop Tower ได้ที่ : trooptowerband


Owner, Co-Founder and Writer of Headbangkok
Vocalist : Tragedy of Murder