บทสัมภาษณ์ฟรอนต์แมนตำนานเฮฟวีเมทัลของแคนาดา สตีฟ “ลิปส์” คัดโลว์ จากวงแอนวิล ในหลายเรื่องราวทั้งอดีตและปัจจุบันโดยเว็บไซต์ Full Throttle Rock
เรื่องราวของแอนวิลสร้างแรงบันดาลใจมากมาย ไล่ตามความต้องการของคุณและแน่วแน่ในสิ่งที่คุณเชื่อ ตอนนี้คุณประสบผลสำเร็จในสิ่งที่คุณควรได้รับแล้ว ก้าวต่อไปของแอนวิลคืออะไร?
ชีวิตคือการก้าวไปข้าวหน้าและเติมเต็มสิ่งที่ขาดหาย และนั่นคือสิ่งที่เราทำอย่างแน่วแน่เสมอมา ความสำเร็จของเรามันใกล้เข้ามาแล้วก็ห่างออกไปอีก เรายังคงหิวโหยและมันถูกเติมเต็มด้วยความปราถนาของเรา
มีผลกระทบอะไรเกิดขึ้นบ้างกับความสำเร็จที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณ
ผลกระทบใหญ่ที่สุดคือเราไม่ได้ทำงานประจำอีกต่อไป แอนวิลคือสิ่งที่ทำให้เรามีรายรับเข้ามา
อัลบั้มล่าสุดของคุณ, Hope in Hell, มันแสดงออกถึงจิตวิญญาณความหนุ่มและความเพลิดเพลินในการใช้ชีวิต คุณได้แรงบันดาลใจในการเขียนเพลงพวกนี้มาจากไหน
มันมาตามธรรมชาติ ไม่ได้มีการไตร่ตรองตระเตรียมอะไรไว้ก่อนเลย แค่เสียบแจ๊กแล้วก็เล่นไปเรื่อย ๆ ผมทำมันลงไปโดยไม่ได้คิดถึงเรื่องเทคนิคอะไรมากมาย แค่ไม่เสแสร้งในการทำ มันคือขั้นตอนแห่งเวทย์มนต์ บางทีแค่ไม่กี่นาทีที่ไม่มีอะไรเลย มันก็กลายเป็นเพลงใหม่ขึ้นมา มันอธิบายไม่ได้ มันเป็นไปแล้ว!
คุณจะเล่าให้เราฟังถึงขั้นตอนการทำเพลงของอัลบั้มใหม่ได้มั้ย มันเป็นสิ่งที่ยากหรือเปล่า?
ความจริงแล้ว Hope in Hell เป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ทำเพลงได้ลื่นไหลที่สุดเท่าที่เราเคยทำมา ผมเตรียมพร้อมไว้แล้วและรู้ว่าเราต้องการที่จะทำอะไร อิทธิพลจากบ๊อบ [มาร์เล็ตต์ — โปรดิวเซอร์] จากอัลบั้มที่แล้วมีส่วนอย่างมากในการช่วยเหลือผมกับการเขียนและเรียบเรียงเพลงให้ออกมาดีที่สุด มันไม่ควรจะยาก ถ้ามันยาก บางทีอาจเพราะมันเกินความสามารถของคุณ และมีแนวโน้มว่ามันจะสร้างความอ่อนแอกับผลลัพธ์โดยรวม การแสดงควรลื่นไหลอย่างเป็นธรรมชาติและสอดคล้องกับสิ่งที่ควรจะเก็บรักษาไว้
คุณมีอุปกรณ์ชิ้นโปรดมั้ย? เคล็ดลับที่ทำให้ได้ซาวด์ออกมาในแบบของคุณ
Tokai DS-1 distortion pedal กับแอมป์ดี ๆ ตัวไหนก็ได้
คุณเขียนถึงเดวิด เครบส์เกี่ยวกับเรื่องที่เขาทำให้แอนวิลต้องหลุดออกจากค่ายแอตติก เรคคอร์ดส์[1]และสูญเสียความนิยมลงมากมาย คุณคิดยังไงกับเหตุการณ์นั้นในตอนนี้
ผมต้องขอบคุณเขา และผมบอกเขาต่อหน้าเลย!! ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมีเหตุผลในตัวมันทั้งนั้น มันสร้างเรื่องราวของเราให้น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ถ้าเรื่องราวมันไม่ออกมาแบบนี้ก็คงไม่มีหนังสารคดีของเราหรืออัลบั้มออกมาถึง 12 ชุดหรอก!!
Q: ถ้าสารคดีเรื่องนี้ไม่ได้ทำออกมา แอนวิลจะยังอยู่แบบนี้จนถึงทักวันนี้มั้ย?
แน่นอน! นั่นคือประเด็นทั้งหมด เราจะไม่หยุดจนกว่าผมจะเอ่ยปากออกมาว่า เราจะไปทำอย่างอื่นแล้ว
คุณคิดยังไงกับอุตสาหกรรมดนตรีทุกวันนี้? การดาวน์โหลดมันส่งผลกระทบแง่บวกหรือลบต่อดนตรี?
มันไม่ส่งผลกระทบตรง ๆ กับดนตรีเท่าที่เกิดกับธุรกิจ ดนตรีกลายเป็นโฆษณาสำหรับดึงแฟนพวกแฟนเพลงมาที่คอนเสิร์ตแล้วก็ซื้อเสื้อ การทำเพลงมันไม่ทำเงินอีกต่อไปแล้ว เพราะว่าคุณสามารถหาฟังเพลงแบบฟรี ๆ บนอินเทอร์เน็ตได้จากเว็บไซต์แชร์เพลงที่มีอยู่เต็มไปหมด
มีวงดนตรีหน้าใหม่ ๆ ที่คุณชอบหรืออยากจะทัวร์ด้วยบ้างมั้ย?
ผมก็ไม่รู้!!! ผมไม่ชอบวงเมทัลสมัยใหม่ … ในหลายครั้งผมอ่านชื่อวงพวกเขาไม่ออกด้วยซ้ำเพราะโลโก้มันไม่ได้ออกแบบมาให้อ่านง่าย ๆ แถมเนื้อเพลงของพวกเขาก็ถูกพ่นออกมาแบบที่ไม่สามารถร้องตามหรือเข้าใจได้ ผมชอบเพลงเมทัลแบบโอลด์สคูลหรือฮาร์ดร็อกที่เน้นความสามารถทางดนตรีมากกว่า
จะทำยังไงถ้าต้องติดเกาะกับจัสติน บีเบอร์
ไปอยู่อีกฟากของเกาะสิวะ!!!
แอนวิลเป็นอีกวงหนึ่งที่ชัดเจนในแนวทางดนตรีเฮฟวีเมทัลมาตั้งแต่แรกเริ่ม (ชวนให้นึกวงที่ไม่เคยเปลี่ยนแนวเลยอย่างเอซี/ดีซี) แถมยังสร้างผลงานที่มีมาตรฐานมาตลอด ผมเคยดูวงนี้แสดงสดครั้งนึงตอนมาเล่นเปิดให้เมทัลลิก้าที่สิงคโปร์เมื่อปลายเดือนสิงหาฯ ที่ผ่านมา ต้องบอกว่า ฝีมือระดับนี้ไม่น่ามาเป็นวงซัพพอร์ตทัวร์เลย เจ๋งสาดดดดดด
[1] เดวิด เครบส์ ในตอนนั้นเป็นผู้จัดการวงของแอโรสมิธ พวกเขาต่อรองให้ค่ายแอตติก เรคคอร์ดส์ปล่อยแอนวิลออกมาจากค่ายเพื่อจะได้นำวงไปเซ็นสัญญากับค่ายใหญ่ แต่เมื่อค่ายปล่อยวงออกมาแล้วเครบส์กลับปล่อยเกาะพวกเขา ไม่เอาแล้วขึ้นมาซะเฉย ๆ
ที่มา – Full Throttle Rock

ผู้ร่วมก่อตั้ง และอดีต บก. Headbangkok.com