เป็นอีกหนึ่งอัลบั้มที่โดนโรคเลื่อนเนื่องจากพิษ Covid-19 เล่นงาน ซึ่งเดิมจะวางแผงกันในช่วงปี 2020 แต่ไม่ว่าจะอย่างไรจนถึงตอนนี้มันก็ได้ออกมาสู่สาธารณะเรียบร้อยแล้ว กับสตูดิโออัลบั้มล่าสุดของวงร็อกซูเปอร์สตาร์นามว่า Foo Fighters โดย Dave Grohl ฟรอนต์แมนบ้าพลังของวงได้ยอมรับว่านี่น่าจะเป็นงานที่มีซาวด์ค่อนข้างแตกต่างจากงานยุคก่อน ๆ อยู่มากทีเดียว เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากอัลบั้ม Let’s Dance ของศิลปินตำนานอย่าง David Bowie มาค่อนข้างมาก

เปิดหัวด้วย Making a Fire ฮาร์ดร็อก จังหวะคึกคัก เมโลดี้กับเนื้อหาติดหูรุกเร้า เสริมด้วยทีมคอรัสทำให้เพลงดูสนุกไปเลย, Shame Shame ซิงเกิ้ลแรกที่จะทำให้แฟน ๆ หงายหลัง กลายสภาพจากวงร็อคดุดันในวันวานเป็น ซอฟท์ ฮาร์ดร็อก จังหวะเนิบนาบไร้ความดุดัน แวดล้อมด้วยเครื่องสายจาง ๆ ริฟฟ์หนึบหนับยียวนชวนออกสเตปเบาๆ, Cloudspotter ร็อกแอนด์โรลสุดเก๋าจังหวะเด้งดึ๋งชวนแดนซ์เป็นที่สุด ได้กลิ่นความเป็น The Rolling Stones, Aerosmith อะไรเทือกนั้นค่อนข้างชัดเจน, Waiting On A War อะคูสติคบัลลาดฮาร์ดร็อกสุดละเมียด เสียงร้องของเดฟกลับมาเต็มพลังปอดเช่นเคย ทางเมโลดี้โคตรจะ FF แบบที่เราคุ้นเคย ก่อนที่จะเร่งสปีดเร็วจี๋เป็นร็อกแบนด์เต็มสูบ อันซึ่งเป็นมุกที่ทางวงเคยนำมาใช้ช่วงยุคแรก ๆ และค่อนข้างได้ผลดีเสียด้วย

Medicine At Midnight ที่แค่เมนริฟฟ์ถึงกับสะดุ้งนึกว่าฟังสาวบางโพ, No Son Of Mine ชวนฉงนด้วยอัพบีตชวนเต้นมากกว่าโยกหัว แต่ก็เป็นเพียงสีสันเล็กเพราะที่เหลือก็ยังร็อกแอนด์โรลกันเต็มคราบเช่นเคย ริฟฟ์,โซโล่กีตาร์แต่ละท่อนนี่ถึงจะมาแบบสั้น ๆ แต่โดนเน้นๆทุกลูก, Holding Poison บีตแบบดิสโก้ร็อกยังถูกนำมาใช้อย่างต่อเนื่องและชวนดีดดิ้นเป็นอย่างมาก ซาวด์ของคีย์บอร์ดเพิ่มความฉ่ำหู ก่อนที่สองมือกีตาร์จะขอขโมยซีนสาดริฟฟ์พร้อมเสืร์ฟโซโล่กีตาร์เมา ๆ ได้อย่างโคตรเท่ไม่หยอก, Chasing Birds บัลลาดร็อกย้อนยุคกับเสียงร้องนุ่ม ๆ ของเดฟทำให้เพลงนี้เรียบง่ายแต่คลาสสิก ทางคอร์ดเรียบเรียงออกมาได้ป๊อปและชวนล่องลอยด้วยเมโลดี้หวาน ๆ จากกีตาร์ของ Chris

ดูท่าเดฟและผองเพื่อนจะเสพติดดนตรียุค 70-80’s อย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว ครั้นจะให้กลับมาโครมครามเยี่ยงวัยรุ่นก็น่าจะเป็นเรื่องยาก สิ่งที่ดีที่สุดคือการหาทางออกให้กับตัวเอง และเหมือนจะเป็นการพิสูจน์ไปแล้วว่าพวกเขาทำมันได้