ห่างหายจากวงการไปนานราวสิบปีสำหรับหนึ่งในหัวหอก นู-เมทัล ยุคเฟื่องฟูสุดขีด ใช่แล้วครับ ผมกำลังพูดถึงพี่ Fred หมวกแดง (ปัจจุบันลุคคุณลุง) และชาวคณะ Limp Bizkit ที่กลับพร้อมอัลบั้มใหม่ชุดที่ 6 แบบงง ๆ โดยใช้ชื่ออัลบั้มไม่ค่อยเป็นมงคลเท่าไรนัก นามว่า Still Sucks และยังได้คลาสสิคไลน์อัพอยู่กันครบถ้วนทุกตำแหน่ง
จุดขายดั้งเดิมของพวกเขาคือการผสมผสานดนตรี นู เมทัล, แร็ป, ฮิปฮอป รวมไปถึงภาพลักษณ์สุดยียวนของฟรอนต์แมน ไหนจะริฟฟ์กีตาร์โดดเด้งของ Wes Borland นี่ยังไม่นับคอสตูม เมคอัพ ของเจ้าตัวอีกซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นภาพจำในวันวานของวงแบบแงะไม่ออกทั้งสิ้น
- อุ่นเครื่องด้วย Out Of Style ที่คงความนูในแบบพวกเขาได้เกือบ 100% แค่ได้ยินริฟฟ์กวน ๆ ก็พอหายคิดถึง แต่ภาพรวมมันหนืดไปนิด รวม ๆ ยังถือว่าโอเคอยู่
- Dirty Rotten Bizkit ต่อเนื่องอารมณ์นูกันอีกระลอก ภาคริธึมชวนโยก ลิคกีตาร์สุดยียวนมีท่อนผ่อนหล่อ ๆ นี่แหละครบสูตรลิมพ์ดั้งเดิม
- Dad Vibes ฮิปฮอปหนึบ ๆ เติมด้วยเสียง Scratch ล้อไปกับนอยซ์กีตาร์ได้สะกิดหูดี
- Turn It Up, Bitch ฮิปฮอปขนานแท้ที่เป็นสัญญาณว่าจะไม่เจออะไรเดิม ๆ ในแทร็คที่เหลือของอัลบั้ม ขณะเดียวกัน Fred ก็ยังสบถคำหยาบได้มันปากเช่นเคย
- Don’t Change งานบัลลาดที่มีอะคูสติกกีตาร์และคีย์บอร์ดรองพื้นโปร่ง ๆ เปิดโอกาสให้เฮีย Fred ได้โชว์เสียงหล่อแบบเต็ม ๆ แต่ดันเป็นงานคัฟเวอร์วง INXS เสียอีกนี่
- You Bring Out The Worst In Me ดีไซน์เท่โดยการ คอนทราสต์ท่อนหนักเบาสลับกันไปมา แต่ปัญหาคือใช้บ่อยจนกลายเป็นงานลูปหมดความตื่นเต้นไปเลย
- Love The Hate มีความดำมืดแบบ อินดรัสเตรียล เป็นของใหม่ที่พวกเขาเพิ่งนำมาใส่ในขณะที่ชาวบ้านชาวช่องเขาเลิกทำเพลงแบบนี้ไปนานแล้ว
- Barnacle กลายสภาพเป็นโพสต์กรันจ์, ฮาร์ดร็อก เน้นกีตาร์สาด ๆ ที่ฟังค่อนข้างหลงยุคไปไม่น้อย แล้วมาแบบระนาบเดียวจบอีกต่างหาก
- ถ้านั่นยังทำให้คุณฉงนไม่พอ พวกเขาจัดกันต่อด้วย Empty Hole โฟล์กกีตาร์เดี่ยวเปลี่ยวเหงาที่ดูยังไง้ ยังไงก็ไม่น่าจะจับมารวมในอัลบั้มนี้ได้
- Pill Popper ฉุดความเหนื่อยหน่ายจากเพลงก่อนๆหน้าได้บ้าง โทนเพลงค่อนข้างโรคจิต ริฟฟ์กีตาร์ของ Wes ได้ทำงานบ้างหลังจากตีคอร์ดแบบซังกะตายมาหลายต่อหลาแทร็ค
- Snacky Poo ที่น่าจะถูกใจขาฮิปมากกว่าขาร็อก แล้วดูท่าทางวงก็ไม่อยากร็อกกันเท่าเดิมแล้วด้วย ก่อนที่จะย้ำจุดยืนปิดท้ายด้วย
- Goodbye บีตสุดป๊อปเจือกลิ่นอาร์แอนด์บี ชนิดที่ว่าลากศิลปินสายนี้มา feat. ด้วยก็น่าจะแนบเนียนได้ไม่ยาก
ในเมื่อห่างหายจากการทำดนตรีกันนาน ความต่อเนื่อง การอัพเดตเทรนด์ดนตรี (ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นในการอยู่รอดสำหรับวงดนตรีในยุคนี้) ส่งผลให้งานชุดนี้มีความขัดแย้งในทิศทางโดยรวมค่อนข้างมาก และหลาย ๆ เพลงดูรีบมารีบไปขาดชั้นเชิงยังไงชอบกล ถ้านับเป็นงานรวม Demo, B-Side ก็ยังพอหยิบมาฟังให้หายคิดถึงได้บ้าง แต่ในฐานะอัลบั้มเต็มผมว่าพวกเขาต้องเร่งจุดไฟให้ตัวเองเพิ่มอีกหน่อย
เว้นซะแต่จะปล่อยให้มันมอดไปอีกรอบก็เท่านั้นเอง…

เขียนงานรีวิวที่ https://www.blockdit.com/birthzyalbumreview และ https://web.facebook.com/ziamsongs