“Reign In Blood” ผลงานโคตรคลาสสิคของวงการดนตรีเมทัล หนึ่งในมาสเตอร์พีซของวง Slayer ที่ทำให้ทุกคนต้องสยบด้วยพลังทำลายล้างราวกับขีปนาวุธยิ่งถล่มแบบไม่มีหยุดพัก เป็นผลงานที่เหล่าแธรชเชอร์ต้องมีไว้ครอบครอง และ “Reign In Blood” ก็มีอายุครบ 35 ปีไปเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา

Slayer เริ่มสร้างชื่อมาก่อนหน้านี้ 2 อัลบั้ม ได้แก่ “Show No Mercy” และ “Hell Awaits” รวมไปถึง “EP. Haunting the Chapel” และ “Live Undead” จนสุดท้ายพวกเขาก็ได้มาเซ็นสัญญากับทาง Def Jam Recordings ซึ่งเป็นค่ายเพลงที่ภาพลักษณ์ออกไปทางฮิพฮอพ เพราะมีศิลปินอย่าง Run DMC และ LL Cool J อยู่ในค่ายด้วย และผู้ร่วมก่อตั้งค่ายไม่ใช่ใครอื่นไกล Rick Rubin โปรดิวซ์เซอร์อัจฉริยะของทางวงนั่นเอง

ทาง Rick ได้พูดถึงการชมคอนเสิร์ตวง Slayer ครั้งแรกไว้ว่า

“ก่อนไปดูโชว์ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขาเลย แต่พวกเขาทำให้ผมประทับใจโคตร ๆ”

Reign In Blood ดนตรีแธรช เมทัล ที่ขับเคลื่อนด้วยความรวดเร็ว เน้นสปีดซัดแบบไม่ยั้ง ท่อนสับถูกนำมาใช้เป็นเมนหลักของโครงสร้างเพลง ทั้งอัลบั้มอุดมไปด้วยริฟฟ์กีตาร์ที่ทรงพลัง ท่อนโซโล่ที่ไม่มีใครเหมือน มีท่อนโยกที่ทำให้ทุกคนต้องบ้าคลั่ง เสียงร้องสุดชั่วร้าย ทั้งอัลบั้มในเวอร์ชั่นปกติมีทั้งหมด 10 เพลงกับเวลาเพียง 28:55 นาทีเท่านั้น

ด้วยความยาวไม่ถึงชั่วโมงทำให้การบรรจุเทปลงได้เพียงหน้า A เท่านั้น และถ้าไปฟังหน้า B มันคือเพลงที่เหมือนหน้า A ทั้งหมด ซึ่งทาง Kerry King เคยพูดถึงเรื่องนี้ไว้กับทาง Decibel Magazine ดังนี้

“คุณสามารถฟังมันได้ แล้วก็ไปฟังอีกรอบด้วยการกลับเทปอีกด้าน”

“พวกเราไม่เคยใส่เพลงที่ไม่จำเป็นลงในอัลบั้มครับ แล้วไอความยาวของเพลงดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่นิยมทำกันในปัจจุบัน”

อย่างไรก็ตามอัลบั้ม Reign In Blood ต้องเจออุปสรรคไม่ใช่น้อยในการวางจำหน่าย เนื่องจากทาง Columbia ได้ปฏิเสธการจัดจำหน่ายผลงานชุดนี้เนื่องจากตัวอาร์ตเวิร์กที่แสดงความเป็นซาตานิกและเนื้อหาเพลงเปิดอัลบั้มอย่าง “Angel Of Death” เนื่องจากมีเนื้อหาที่พูดถึงการกระทำอันป่าเถื่อนของนายแพทย์ Josef Mengele ของพรรคนาซี ที่ได้รับฉายาชื่อเดียวกับเพลงจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวโดยเฉพาะในท่อน

“Sadistic, surgeon of demise / Sadist of the noblest blood / Destroying, without mercy / To benefit the Aryan race”

“ความซาดิสต์, ศัลยแพทย์แห่งความตาย / ความซาดิส์ของเลือดผู้สูงศักดิ์ / ทำลายล้าง, ปราศจากความปราณี / อุทิศแด่ชนเผ่าอารยัน”

อย่างไรก็ตามทางวงได้ปฎิเสธว่าเพลงนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับลัทธินาซีหรือนายแพทย์ดังกล่าวแต่อย่างใด

แต่หากจะพูดถึงเพลงที่สั่นสะเทือนแฟนเพลง Slayer และวงการแธรช เมทัล ที่สุดในอัลบั้มนี้คงหนีไม่พ้นเพลง “Raining Blood” บทเพลงที่จะทำให้ใครก็ตามที่ได้ฟังครั้งแรกต้องถูกสะกดโดยทันที บทเพลงสุดยิ่งใหญ่ตลอดกาลของวงการเพลงเมทัล

“Raining Blood” ถูกเขียนขึ้นโดย Jeff Henneman และ Kerry King ทาง Jeff ได้อธิบายถึงคอนเซปต์เพลงนี้ไว้ว่า

“มันเกี่ยวกับคนที่ไปอยู่ใน Purgatory (สถานที่พิพากษาหลังความตายตามความเชื่อของความคริสเตียน) เพราะถูกขับไล่ออกจากสวรรค์ ซึ่งเขากำลังรอคอยการล้างแค้นและทำลายล้างสถานที่นี้อยู่”

ทาง Kerry ได้ขยายความเพิ่มเติม

ส่วนที่เหลือของเพลงได้อธิบายถึงเหตุการณ์หลังจากที่เขาได้ทำลายล้างเทวดาทั้งหมดในนั้น”

“ในท่อนที่ร้องว่า ‘Return to power draws near’ (พลังใกล้หวนคืน) หมายถึงเขากำลังรอคอยให้กลับมาแข็งแกร่งเพื่อทำลายล้างสวรรค์ ส่วนเนื้อเพลงท่อนต่อไป ‘Fall into me, the sky’s crimson tears’ (ตกลงมาใส่กู, น้ำตาสีเลือดนกจากฟากฟ้า) หมายถึงทุกคนเลืดสาดกระจายมาโดนตัวเขา นั่นคือที่มาที่ไปของ ‘Raining Blood’ มันคือเลือดของเหล่าเทวดาทั้งหมดที่ตกลงมาใส่ตัวเขาครับ”

ผลงานอัลบั้ม ‘Reign In Blood’ ยังได้รับการยกย่องจากทั้งแฟนเพลงเมทัลและนิตยสารดนตรีมากมาย เป็นอัลบั้มที่ถูกยกขึ้นหิ้งไว้ของใครอีกหลาย ๆ คน

ล่าสุดทาง Dave Lombardo อดีตมือกลองของทางวงก็มองว่าอัลบั้มนี้คือมาสเตอร์พีซของวงเช่นกัน

รายชื่อเพลง (เวอร์ชั่นปกติ)

1.Angel Of Deatg

2.Piece by Piece

3.Necrophobic

4.Altar Of Sacrifice

5.Jesus Saves

6.Criminally Insane

7.Reborn

8.Epidemic

9.Postmortem

10.Raining Blood

สุขสันต์วันเกิดอัลบั้ม “Reign In Blood” Slayer