24 กันยายน ปี 1991 คือวันที่วางแผงอัลบั้ม “Nevermind” ของวง Nirvana วันที่วงการทั่วโลกดนตรีต่างจดจำ เพราะมันคือการพลิกโฉมกระแสดนตรีจากยุคแฮร์ แบนด์ ให้กลายมาเป็นยุคของดนตรีกรันจ์และอัลเทอร์เนทีฟ เป็นวันที่เปลี่ยนแฟชั่นสไตล์การแต่งตัวของวัยรุ่นในยุค 90’s โดยแท้จริง

“Nevermind” สามารถทำยอดขายทั่วโลกในปัจจุบันได้เกินกว่า 30 ล้านก็อปปี้ ทั้งหมดทั้งมวลในส่วนของดนตรีมาจากการสร้างสรรค์ของ Kurt Cobain, Dave Grohl และ Krist Novaselic รวมไปถึงโปรดิวซ์เซอร์มากฝีมืออย่าง Butch Vig ทั้งหมดช่วยกันคลุกเคล้าและปรุงแต่งซาวด์ให้ออกมาได้อย่างน่ามหัศจรรย์ แต่มันเป็นความน่ามหัศจรรย์ในความเรียบง่าย, ไม่ได้ดูหรูหราสวยงาม, ไม่ได้มีเทคนิคอะไรหวือหวามากมาย แต่ทุกอย่างมันโคตรลงตัว และมีเพลงอย่าง “Smells Like Teen Spirit” ที่เปรียบเสมือนบทเพลงแห่งการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยดนตรี

Dave Grohl อดีตมือกลองของวงได้ย้อนความหลังของการทำอัลบั้มชุดนี้ให้ทางนิตยสาร NME ให้ฟังว่า

“เอาจริง ๆ เลยนะ ในตอนนั้นพวกเราฟังผลงานของวง Pixies กันเยอะมาก มันเป็นยุคของอัลบั้ม Bossanova ตอนนั้นพวกเราสนุกกันมาก จริง ๆ นะครับ พวกเราจะมาพร้อมกับเพลงใหม่ในทุก ๆ วัน ส่วน Krist Novaselic ผมว่าเขามีวิทยุ Boombox คอยเอามาอัดเสียงเพลงที่ทำกันทั้งหมด มันมีพวกริฟฟ์ที่คิดไว้แต่ไม่ได้ใช้งานด้วยครับ มันมีเพลงที่กลายมาเป็นเพลงของ Nirvana แค่บางส่วนนะครับ”

Dave Grohl ยังถูกถามต่อถึงความอิมแพคของอัลบั้ม Nevermind

“แน่นอนครับ ไม่มีใครใช้จิตสัมผัสจินตนาการได้ว่าเพลงมันจะไปได้ไกลและทำได้ถึงขนาดนั้น พวกเราแค่เล่นเพลงร็อกในห้องซ้อมเล็ก ๆ ที่ดูคล้ายกับโรงนา ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเนื้อเพลงมีอะไรบ้าง เพราะ Kurt เปลี่ยนแพตเทิร์นของเมโลดี้ทุก ๆ ครั้งที่พวกเราเล่นกัน มันไม่จริงจังซักที จนกระทั่งไปอัดเพลงที่สตูดิโอมันทำให้ผมตระหนักถึงพลังที่อยู่ในเพลง มันไม่ใช่แค่เนื้อเพลงหรือตัวดนตรี แต่มันคือกรูฟของเพลง แม่งโคตรทรงพลังเลยครับ”

มุมมองต่อเพลง “Smells Like Teen Spirit” ณ เวลานั้น

“คือตอนแรกพวกเราคิดว่าคนฟังคงจะสนใจเพลงอย่าง In Bloom, Lithium หรือ Breed”

“ตอนที่อัดเพลงกันไม่มีใครให้ค่ากับเพลง Smells Like Teen Spirit เลยครับ พวกเราคิดว่าเพลงอื่น ๆ ในอัลบั้มเจ๋งกว่านี้อีก”

แม้เวลาจะล่วงเลยมา 30 ปีแล้ว แต่อัลบั้ม Nevermind ก็ยังคงถูกพูดถึงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในปีนี้กับเคสของนาย Spencer Elden อดีตเด็กน้อยบนหน้าปกอัลบั้มนั่นเอง

ที่มา : kerrang