วันที่ 12 กรกฎาคม ปี 2011 คือวันวางจำหน่ายอัลบั้มที่ 3 ของวง Suicide Silence ที่ชื่อว่า “The Black Crown” กับการเปลี่ยนแปลงซาวด์บางอย่างในอัลบั้มที่เหมือนเป็นการบ่งบอกอีกหนึ่งอิทธิพลทางดนตรีที่สมาชิกแต่ละคนเติบโตกันมา รวมถึงเนื้อหาของเพลงที่เปลี่ยนแปลงจากเรื่องการต่อต้านศาสนากลายมาเป็นเรื่องราวของตัวเองแทน
Mitch Lucker อดีตฟรอนต์แมนของวงผู้ล่วงลับไปแล้วกับทาง Mark Heylmun มือกีตาร์ของวง ได้เคยพูดถึงเรื่องนี้กับทาง metalinsider ไว้ว่า
Mark Heylmun : เอาแหล่ะ ก่อนที่ Mitch จะตอบคำถาม ผมอยากจะบอกว่าวงให้สิทธิ์กับการร้องและเขียนเนื้อเพลงกับเค้าแบบ 100% เต็มไม่หัก, มันคือทั้งหมดของ Mitch นะบักหำน้อย
Mitch Lucker : ใช่เลย! โดยพื้นฐานในอัลบั้มแรกผมเลือกทางที่จะด่ากราดไปทั่วและทำให้คนอื่นสนใจ, ทำให้ผู้คิดว่า ‘มันเกลียดไอนั่น มันเกลียดไอนี่’ แต่หลังจากนั้นผมก็มานั่งคิดว่าตัวเราน่าจะเป็นคนเขียนเพลงที่ดูผู้ใหญ่มากขึ้นได้มากกว่านี้ และมันจะพาเราได้ไปไกลมากกว่าเดิม การเขียนเนื้อเพลงแบบเดิมมันเหมือนการพยายามตีม้าที่ตายไปแล้ว (เป็นวลีเปรียบเปรย : การใช้พลังงานกับสิ่งที่เปล่าประโยชน์) คือผมคิดว่าเราจะมานั่งเขียนเกี่ยวกับสิ่งที่เราเกลียดไปทำไมกันวะ มันไม่ช่วยให้คุณไปไหนได้เลยนะ เพราะสุดท้ายม้าที่ตายแล้วก็จะเน่าเปื่อยและสูญสลายไป ดังนั้นเพลงในอัลบั้มนี้มันจะเกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัวมากขึ้น, มันเป็นตัวของผมมากขึ้น แต่มันจะมีมุมมองของผมที่มองออกไปดูสถานการณ์ต่าง ๆ ภายนอกว่ามันเกิดเรื่องเหี้ย ๆ อะไรขึ้นบ้าง และใช้เรื่องราวเหล่านั้นมาเขียนเพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงมัน โลกมันไม่ได้เพอร์เฟคนะไอ้ทิด ถึงแม้ว่าเมืองของคุณ, แถวบ้านของคุณ, ชีวิตของคุณอาจจะสมบูรณ์แบบก็เถอะ แต่ลองมองภาพใหญ่ของโลกใบนี้ดูสิและดูว่าความจริงแล้วมันมีเรื่องแย่ ๆ เกิดอะไรขึ้นบ้าง มันไม่ใช่ที่ที่ดีและมันก็ไม่ได้น่าสนุกอีกต่อไปแล้ว
ในส่วนของพาร์ตดนตรีต่าง ๆ ในอัลบั้ม “The Black Crown” Mitch Lucker ได้บอกว่ามันได้รับอิทธิพลจากวง Slipknot, Korn และ Pantera ซึ่งถ้าใครได้ฟังก็จะทราบทันทีว่าจริง! โดยเฉพาะเพลง “You Only Live Once” ที่น่าจะเป็นคำตอบได้ดีที่สุด ซึ่งเพลงนี้อย่างที่ทราบกันว่าได้กลายมาเป็นเพลงชาติของวง Suicide Silence ไปในที่สุด และยังมียอดวิวบน Youtube แต่หลักร้อยล้านวิวไปเรียบร้อย เป็นยอดวิวที่สูงที่สุดของทางวง
นอกจากนั้นอัลบั้มนี้ยังมีแขกรับเชิญตัวท็อป ๆ มากมาย ได้แก่ Jonathan Davis จากวง Korn, Frank Mullen จากวง Suffocation และ Alexia Rodriguez (อดีตแฟนสาวของ Alex Lopez มือกลอง) จากวง Eyes Set To Kill
ในด้านงานโปรดิวซ์ได้ Steve Evetts ผู้เคยร่วมงานกับวง Glassjaw, Story Of The Year, The Dillinger Escape Plan และอีกมากมายมาร่วมงาน
“The Black Crown” ดูจะเป็นเส้นทางที่บ่งบอกการเติบโตของวง Suicide Silence และได้ก้าวขึ้นมาเป็นวงระดับบิ๊กเนมอย่างสมบูรณ์แบบ ทุกอย่างกำลังไปได้สวย ใครจะไปคาดคิดว่าอีกหนึ่งปีกว่า ๆ ต่อมา Mitch Lucker จะต้องมาจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับจากอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ จนทำให้อัลบั้มนี้คือเสียงสุดท้ายที่ Mitch Lucker ฝากเอาไว้บนโลกใบนี้ไปตลอดกาล
R.I.P. Mitchell Adam “Mitch” Lucker (October 20, 1984 – November 1, 2012)
ที่มาบทสัมภาษณ์ : metalinsider

Owner, Co-Founder and Writer of Headbangkok
Vocalist : Tragedy of Murder