Search

Suicide Silence วงเดธคอร์ขวัญใจวัยรุ่นทั่วโลกเพิ่งจะปล่อยซิงเกิลใหม่เพลงแรกของปี 2017 อย่าง “Doris” มาให้ฟังกัน หลายคนก็ชอบ หลายคนก็ไม่ชอบ ในโอกาสนี้ทางเราเลยอยากตัดบทเพลงของพวกเขาที่โดนใจแฟนเพลงซัก 10 เพลงออกมาให้ฟังกันเพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยก่อน ก่อนที่จะไปเสพย์อัลบั้มเต็มชุดใหม่ของพวกเขากันในเร็ว ๆ นี้

ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มกันเลยครับ

10. “Swarm” (Suicide Silence EP, 2005)

ก่อนที่ Suicide Silence จะปล่อยอัลบั้มเต็มชุดแรก “The Cleansing” ทางวงเคยมีผลงาน EP ออกมาหนึ่งอัลบั้ม และ EP ชุดนี้ก็เรียกความสนใจจากคอเพลงแนวเดธคอร์ได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงยังไปเข้าตาแมวมองค่าย Century Media อีกต่างหาก ถือเป็นจุดเริ่มต้นความสำเร็จของวงอย่างแท้จริง และเพลง “Swarm” ก็บ่งบอกตัวตนพวกเค้าได้เป็นอย่างดี เพลงนี้แม่งดิบสาส!




9. “Smashed” feat. Frank Mullen of Suffocation (The Black Crown, 2011)

บทเพลงจากอัลบั้ม “The Black Crown” ที่ได้แขกรับเชิญสุดพิเศษ Frank Mullen จากวง Suffocation โคตรวงบรูทัลเดธในตำนานมาร่วมสำรอกเพิ่มความเหี้ยมให้กับบทเพลง ดีกรีความเดือดแทบจะทำให้ลำโพงระเบิดกระจุยออกมา ที่สำคัญเพลงนี้ยังสื่อให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของดนตรีแนวโอลด์สคูลเดธเมทัลที่ส่งอิทธิพลมาถึงวงดนตรีแนวเดธคอร์รุ่นใหม่อีกด้วย




8. “Engine No. 9” (Deftones cover)

Suicide Silence หยิบยกเพลงของวง Deftones วงอีโมคอร์รุ่นเก๋ามาทำใหม่ในสไตล์ของพวกเขาเอง และก็ทำมาได้อร่อยเหาะเหลือเกิน จนฟังไปนึกว่าเป็นเพลงใหม่ที่วงปล่อยออกเลยทีเดียว




7. “Wake Up” (No Time to Bleed, 2009)

ซิงเกิลเปิดตัวจาก “No Time to Bleed” อัลบั้มลำดับที่สองของวงที่เมื่อได้ฟังทีไรเดือดทุกที เสียงของ Mitch Lucker เพลงนี้แหลมบาดหูเหลือเกิน




6. “The Price of Beauty” (The Cleansing, 2007)

กระชับ-ว่องไว-ทำลายล้าง มิวสิควิดีโอโคตรซาดิสม์ แค่นี้ก็พอเพียงสำหรับความสะใจแล้ว




5. “You Only Live Once” (The Black Crown, 2011)

เพลงนี้น่าจะเป็นเพลงที่ติดหูและร้องตามกันได้มากที่สุดในบรรดาเพลงของ Suicide Silence — จังหวะจะโคนของเพลงยังชวนโยกทั้งเพลง เป็นเพลงที่เหมาะกับการเล่นสดสุด ๆ แถมเนื้อหายังเข้าถึงวัยรุ่นโดยแท้ “มีชีวิตเดียวใช้มันซะ” เอ๊ะสโลแกนคุ้น ๆ




4. “Fuck Everything” (The Black Crown, 2011)

ฟังเพลงนี้แล้วอยากออกไปตะโกนใส่สังคมที่วุ่นวายในกรุงเทพว่า “FUCK EVERYTHING!”




3. “Cease to Exist” (You Can’t Stop Me, 2014)

ซิงเกิลจากอัลบั้มใหม่ล่าสุดที่ได้ Eddie Hermina (ex-All Shall Perish) มารับหน้าที่แทน Mitch Lucker ฮีโร่ผู้ล่วงลับ ซึ่งบอกได้เลยว่า Eddie ทำได้สมบูรณ์แบบมาก ๆ ด้วยพลังเสียงทำลายล้างระดับบรรลุโสดาบรรณ ช่วยให้วง Suicide Silence กลับฟื้นคืนชีพอีกครั้งได้อย่างสง่างาม




2. “Bludgeon to Death” (The Cleansing, 2007)

อีกหนึ่งซิงเกิลยอดฮิตของวงที่มาพร้อมกับเสียงคำรามว่า “And doctors won’t be able to recognize your fucking face!”




และอันดับ 1 ก็คือ …

1. “Unanswered” (The Cleansing, 2007)

จะเรียกเพลงนี้เป็นเพลงชาติของวงก็ไม่น่าจะผิด บทเพลงไม่ซับซ้อน อัดกันตรงไปตรงมาแต่สมบูรณ์แบบตามสูตรที่ดนตรีแนวเดธคอร์ควรจะมี แถมท่อนสำรอก “Where is your god?! Where is your god?! Where is your fucking god!!?” ยังเป็นท่อนที่ปลุกระดมคนดูในวงมอชพิตเวลาเล่นสดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ด้วยเหตุผลนี้เองผมจึงเลือกเพลงนี้ให้เป็นอันดับที่ 1 อย่างไม่ต้องสงสัยครับ




เพลย์ลิสต์นี้ถูกใจใครบ้างรึเปล่าครับ หากใครมีเซทลิสท์เจ๋งๆๆสามาถร่วมกันแชร์ความคิดเห็นที่กล่องคอมเมนต์ได้เลยนะครับ

(*หมายเหตุ 10 เพลงนี้เป็นทัศนคติและความชอบส่วนตัวของผู้เขียน มิต้องซีเรียสนะฮ้าฟ)