Search

ถ้าจะให้พูดถึงวงดนตรีร็อกหรือเมทัลซักวงที่ประสบความสำเร็จล้นหลามในศตวรรษที่ผ่านมา ก็คงจะหนีไม่พ้นวง Linkin Park อย่างแน่นอน พวกเขาคือวงดนตรีที่ก้าวเข้าสู่วงการร็อกตั้งแต่ยุคนูเมทัลและยังคงยืนหยัดอยู่บนเส้นทางสายนี้ได้อย่างมั่นคงจนถึงปัจจุบัน ด้วยเอกลักษณ์ทางดนตรีที่โดดเด่น ผสมผสานทั้งนูเมทัล, อัลเทอร์เนทัฟ, ฮิปฮอพ, อิเล็กทรอนิกและป๊อปเข้าด้วยกัน ทำให้บทเพลงของพวกเขามีทั้งความหนักหน่วงแต่เต็มไปด้วยเมโลดี้ที่ติดหู สามารถเข้าถึงกลุ่มคนฟังได้เป็นวงกว้าง ซึ่งเป็นจุดที่พวกเขาได้เปรียบและกลายมาเป็นวงที่ประสบความสำเร็จแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้นั่นเอง

วันนี้ทางเราจัดเพลย์ลิสต์พิเศษมาเอาใจสาวก LP โดยเฉพาะ ด้วยการคัดเลือก 10 บทเพลงยอดเยี่ยมของ Linkin Park (ในดวงใจของพวกเรา) มาให้ได้เสพย์กันเพลิน ๆ มาเริ้่มกันเลยดีกว่าครับ

10. “Until It’s Gone” (อัลบั้ม The Hunting Party ปี 2014)

ผลงานเพลงจากอัลบั้มล่าสุด The Hunting Party โดดเด่นไปด้วยดนตรีสังเคราะห์สุดล้ำที่ผสมผสานกับดนตรีร็อกของพวกเขาได้อย่างลงตัว

9. “Lost in the Echo” (อัลบั้ม Living Things ปี 2012)

ยังคงอยู่กับยุคหลังของวงที่ดนตรีเน้นไปทางอิเล็กทรอนิกเป็นหลัก แต่เพลงนี้การเรียบเรียงดนตรีแอบทำให้นึกถึงผลงานยุคแรก ๆ ของพวกเขาเล็กน้อย ท่อนแร็ปของไมค์ ชิโนดะและเสียงร้องของเชสเตอร์ เบนนิงตัน สอดประสานเข้ากันอย่างรู้ใจ

8. “Waiting for the End” (อัลบั้ม A Thousand Suns ปี 2010)

หากมองข้ามดนตรีนูเมทัลในอดีตของพวกเขาไปแล้วเปิดใจรับอะไรใหม่ ๆ คุณก็จะพบว่าดนตรีเพลงนี้มันไม่ธรรมดาจริง ๆ ตลบอบอวลไปด้วยซาวด์สังเคราะห์ที่ทางวงนำมาทดลองมากมาย ซึ่งได้สร้างชั้นของมิติของเพลงให้ดูหลากหลายและน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

7. “New Divide” (เพลงประกอบภาพยนตร์ Transformers: Revenge of the Fallen ปี 2009)

แม้ดนตรีจะไม่หนักมาก แต่ซาวด์กีต้าร์ที่แตกพร่าก็สื่ออารมณ์ของอัลเทอร์เนทีฟไม่น้อย โดดเด่นช่วงกลางเพลงด้วยการโชว์จังหวะกรูฟกับซาวด์อิเล็คทรอนิคที่ต้องบอกว่าเท่จริง ๆ แถมเพลงนี้ยอดวิวแตะไปที่สองร้อยล้านวิวเรียบร้อยแล้ว นอกจากหนังจะดังแล้วเพลงยังประสบความสำเร็จอีกด้วย เคมีเข้ากันดีแท้

6. “No More Sorrow” (อัลบั้ม Minutes to Midnight ปี 2007)

สำหรับคนชอบของหนักแบบเก๋า ๆ ต้องไม่พลาดเพลงนี้แน่นอนเพราะเพลงนี้จัดหนักกันสะใจแบบที่ Linkin Park ไม่เคยทำกันมาก่อน เพราะมันไม่ใช่มาแบบสไตล์นูเมทัล แต่มันมาพร้อมกับสำเนียงเฮฟวี่เมทัลเต็มสูบ เสียงร้องของเชสเตอร์เกรี้ยวกราดมาก ๆ

5. “Points of Authority / 99 Problems / One Step Closer” (อัลบั้ม Collision Course ที่ทำร่วมกับ Jay-Z ปี 2004)

ผลงานอัลบั้มประวัติศาสตร์ของวงการดนตรี จากโปรเจ็คอันยอดเยี่ยมของ MTV ที่นำเพลงของ Linkin Park และ Jay-Z แร็ปเปอร์ตัวพ่อของวงการ มาแมชอัพกันได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะเพลงนี้ที่ไมค์ ชิโนดะกับเจย์ ซี ผลัดกันแร็ปอย่างเมามัน ตามด้วยเสียงสำรอกของเชสเตอร์แบบระเบิดอารมณ์ปิดท้าย

4. “Numb” (อัลบั้ม Meteora ปี 2003)

ผลงานเพลงบัลลาดสไตล์ Linkin Park ซึ่งเป็นเพลงสุดท้ายในอัลบั้มนี้ ดนตรีของพวกเขามีทั้งอารมณ์ที่อ่อนไหวและกราดเกรี้ยวไปพร้อม ๆ กัน บ่งบอกและสื่อความหมายของเพลงได้เป็นอย่างดี แถมเพลงนี้เสียงฮาร์โมนิคจากโจ ฮาห์น ยังติดหูมาก ๆ อีกด้วย

3. “Pts.OF.Athrty” (อัลบั้ม Reanimation ปี 2002)

เพลง “Points of Authority” ถูกนำมารีเมคใหม่ในอัลบั้ม Reanimation แม้จะไม่หนักแน่นเท่าต้นฉบับ แต่ที่ชนะขาดคือเอ็มวีที่เป็นสงครามหุ่นยนตร์นั่นเอง ซึ่งเอ็มวีนี้ในยุคนั้นถือว่าล้ำมากแถมยังบ่งบอกความบ้ากันดัมส์ของสมาชิกวงได้เป็นอย่างดี

2. “Rebellion” feat. Daron Malakian จากวง System of a Down (อัลบั้ม The Hunting Party ปี 2014)

อัลบั้มนี้เต็มไปด้วยแขกรับเชิญร่วมกันมาเซอร์ไพรส์มากมาย แต่ที่เซอร์ไพรส์ชาวร็อกมากที่สุดนอกจาก Tom Morello แห่งวง Rage Against the Machine แล้วก็คือมือกีต้าร์สุดเพี้ยนจากวง System of a Down นามว่า Daron Malakian คนนี้นั่นเอง

1. “In the End” (อัลบั้ม Hybrid Theory ปี 2000)

ความจริงแล้วมีเพลงที่ดีกว่านี้อีกหลายเพลง แต่สาเหตุที่เราตัดสินใจเลือกเพลงนี้คือความมหัศจรรย์ของมันที่สามารถทำให้วงดนตรีเมทัลหน้าใหม่วงหนึ่งส่งเพลงเข้าไปฮิตติดลมบนอันดับหนึ่งบนชาร์ตเพลงทั่วโลก แถมยังเป็นผลงานแจ้งเกิดให้โลกได้รู้จักกับวง Linkin Park กันอีกด้วย

แม้กระทั่งคนงานจากดินแดนที่ราบสูงแถวบ้านผมที่ปกติชื่นชอบเพลงหมอลำเป็นหลักยังรู้จัก Linkin Park จากเพลงนี้เลย ต้องบอกว่าเป็นปรากฎการณ์ที่เหนือธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และยากจะลืมเลือนจริง ๆ ครับ

ครบไปแล้วครับกับ 10 เพลงยอดเยี่ยมของวง Linkin Park คอลัมน์พิเศษนี้จะกลับมาจัดอันดับให้ได้อ่านกันอีกเรื่อย ๆ แน่นอนครับ คราวหน้าจะเป็นวงอะไร มาติดตามกันไว้ให้ดีครับ!